Xiaomi หรือ Mi บริษัทจีนที่โด่งดังด้วยรอม MIUI จนหันมาผลิตมือถือขายเองโดยเน้นสเป็กสูง ราคาต่ำ ลูกเล่นเยอะและยังมีรอมสำหรับนักพัฒนาที่ปล่อยอัพเดตทุกวันศุกร์จนทำให้ใครหลายคนติดใจ ล่าสุดได้เปิดตัวมือถือตระกูลใหม่คือ Mi Note
สเป็ก Xiaomi Mi Note
- ซีพียู Snapdragon Snapdragon 801 2.5 GHz
- จีพียู Adreno 330
- แรม 3 GB
- หน้าจอ Sharp ขนาด 5.7 นิ้ว Full HD 1920×1080 ใช้กระจก Gorilla 3
- รองรับ 4G ทั้ง 2 ซิม แสตนด์บายได้พร้อมกัน ใช้ไมโครซิมและนาโนซิม
- หน่วยความจำภายใน 16/64 GB
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของโซนี่ รูรับแสง f/2.0 พร้อมระบบกันสั่น OIS และแฟลชคู่
- กล้องหน้า 4 ล้านพิกเซล แบบ Ultra pixel
- ระบบเสียง Hi-Fi 24-bit/192KHz รองรับการเล่นเพลงไฟล์แบบ lossless
- แบตเตอรี่ 3000mAh รองรับ Quick Charge 2.0
- ตัวเครื่องหนัก 161 กรัมและบาง 6.95 มม.
นอกจากนี้ยังมี Mi Note Pro ซึ่งความต่างที่เด่นชัดก็คือซีพียู แรม และความละเอียดหน้าจอ
สเป็ก Xiaomi Mi Note Pro
- CPU Snapdragon 810 Octa-core 64-Bit 2.0 GHz
- GPU Adreno 430
- แรม 4GB
- หน้าจอ Sharp ขนาด 5.7 นิ้ว 2K 2560×1440 ใช้กระจก Gorilla 3
- หน่วยความจำภายใน 64 GB
- แบตเตอรี่ 3090mAh รองรับ Quick Charge 2.0
สำหรับราคามีดังนี้
- Mi Note หน่วยความจำ 16 GB ราคา 2299 หยวน หรือประมาณ 12,000 บาท
- Mi Note หน่วยความจำ 64 GB ราคา 2799 หยวน หรือประมาณ 15,000 บาท
- Mi Note Pro หน่วยความจำ 64 GB ราคา 3299 หยวน หรือประมาณ 17,200 บาท
นอกจากสเป็กที่จัดเต็มก็ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าสนใจอีก เช่น
แรม 4 GB แบบ LPDDR4 บน Mi Note Pro ที่เป็นการรวมจุดเด่นของ ASUS ZenFone 2 ที่มีแรม 4 GB และ LG G Flex 2 ที่ใช้แรมแบบ LPDDR4 ที่เร็วกว่า LPDDR3 50% และใช้พลังงานน้อยกว่า 40% ซึ่ง Mi Note Pro เป็นรุ่นแรกที่ควบรวมจุดเด่นทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน
Mi Note Pro รองรับ LTE Cat 9 ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการเลือกใช้ซีพียู Snapdragon 810 ทำให้ได้ Cat 9 ที่ใหม่ที่สุด และสามารถดาวโหลดได้สูงสุดที่ 450 Mbps ในขณะที่มือถือทั่วไปยังคงใช้ Cat 4 และ Cat 6
ระบบเสียงขับเคลื่อนด้วย ESS ES9018K2M 32-bit Stereo audio DAC ทำให้สามารถขับไฟล์เสียง 192 kHz/24 bit และรองรับไฟล์ lossless ได้แก่ FLAC/APE/WAV/DSD
เป็นมือถือรุ่นแรกที่มีระบบกรองแสงสีฟ้าบนหน้าจอ ช่วยให้มองสบายตามากขึ้น
ใช้กระจก Gorilla Glass 3 แบบโค้ง โดยเลือกใช้แบบ 2.5D ด้านหน้าและใช้แบบ 3D ด้านหลัง
รองรับทั้งไมโครและนาโนซิม แบบ stand by 4G ทั้งสองซิม
กล้องหน้าเป็นแบบ UltraPixel ที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 2 ไมครอนพิกเซล ส่วนกล้องหลังมีระบบกันสั่น OIS และแฟลชคู่
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Mi Note
ความเห็นจากทีมงานล้ำหน้า
ความน่าสนใจก็คือ Mi Note เสมือนการเปิดไลน์สินค้าใหม่ เพราะแต่เดิมจะแบ่งเป็น Mi สำหรับเรือธง และ RedMi สำหรับตลาดล่าง ทำให้เป็นไปได้ว่า Xiaomi กำลังจะมีเรือธงมากกว่า 1 รุ่น ดังนั้นหลายคนก็เริ่มคาดหวังกับ Mi 5 ว่าจะมีดีแค่ไหน
แม้ว่าในไทยยังไม่มีการเข้ามาเปิดตลาดอย่างจริงจัง แต่ก็มี Fansite อย่างเป็นทางการที่จับมือร่วมกับทาง Xiaomi มาประมาณ 1 ปี ซึ่งมีการจัดมิตติ้งไปแล้ว 3 ครั้งและมีของรางวัลจาก Xiaomi มาสนับสนุนเป็นระยะ ถ้าหากสนใจก็สามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่ www.miui.in.th
ที่มา: miui.in.th , phonearena