จริงๆ เขียนไว้ตั้งกะคืนที่เปิดตัว Macbook แล้ว แต่ดันลืม Publish ครับ ฮ่า เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเริ่มรู้สึกไม่ดีกับการที่ New Macbook ตัวใหม่ให้ USB Type C มาแค่ Port เดียว แต่ลองมาดูกันก่อนนะครับ ว่าเจ้า USB Type C เนี่ยมันเจ๋งขนาดไหน
ข้อดีของ USB Type C
- เสียบข้างไหนก็ได้ ไม่เหมือน USB แบบเก่าที่ต้องเสียบให้ถูกข้าง คิดว่าหลายๆคนน่าจะเคยเป็นนะ เสียบครั้งแรกเข้าไป เอ๊ะ! ไม่เข้า เอาใหม่กลับอีกข้าง อ๊ะ ก็ไม่เข้าอีก สุดท้าย!! อ้าวกรูเสียบครั้งแรกก็ถูกแล้วนี่หว่าทำไมไม่เข้าฟระ
- ส่งข้อมูลได้เร็วถึง 10Gbps เรียกได้ว่า เร็วเท่าพอร์ท Thunderbolt ของ Apple แถมยังเร็วกว่า USB 3.0 ถึง 2 เท่า (ความเร็วของ USB 3.0 คือ 5Gbps)
- ใช้ส่งสัญญาณภาพก็ได้ ใช้แทนพวก HDMI , Display Port ก็ได้ แถมยังส่งไปกลับได้ 2 ทิศทาง ไม่เหมือนสายแบบเก่าที่ส่งไปได้ทิศทางเดียว
- สามารถส่งกำลังไฟได้สูงสุด 100 Watt … ขนาดสายชาร์จของ Macbook Pro 15 นิ้ว ยังใช้ไฟแค่ 85Watt เรียกได้ว่าเส้นเดียว ชาร์จอุปกรณ์ได้พร้อมกันเพียบ
- มาตรฐานกลาง .. อันนี้ไม่เหมือน Thunderbolt ของ Apple ที่เวลาจะทำอุปกรณ์มาต่อเชื่อม ต้องไปจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ทำให้อุปกรณ์ตัวไหนทีรองรับ Thunderbolt ราคาก็จะโคตรแพงไปด้วย แต่กับ USB ที่เป็นมาตรฐานกลาง ค่าลิขสิทธิ์ถูกกว่ามาก แถมยังใช้กันทั่วโลก ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถทำให้รองรับ USB Type C ได้ง่าย
- รองรับมาตรฐานเก่าๆ อย่าง USB 2.0 ก็สามารถนำมาใช้ได้โดยที่หาหัวแปลงมาใช้ก็พอนะจ๊ะ
- เล็กโคตรๆ ทำให้อุปกรณ์ที่นำมันไปใช้ ลดขนาดได้ไปในตัว
ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า
ถึงแม้ว่า USB จะเป็น Port ครอบจักรวาลที่ใครหลายๆคนใช้กัน แต่เชื่อไหมครับ ขนาด USB มาตรฐานเดียว ยังมีหัวออกมาเต็มไปหมด หัวแบบ Type A , B หัวแบบ Mini / Micro USB / หัวแบบ USB 3.0 ทางผู้กำหนดมาตรฐาน USB ก็ได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้เลยออก USB Type C มาพลิกโลก แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเอามาใช้เพราะว่า มันใหม่เกิ๊น ยังไม่มีอุปกรณ์อะไรออกมารองรับซักเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่รุ่นใหญ่อย่าง Apple ออกมาลุยตลาดก่อน การเปลี่ยนแปลง Port ในครั้งนี้อาจจะไม่สำเร็จเลยก็เป็นได้ แต่ถ้า Apple ลงมาทำเอง จะเกิดแรงกระเพื่อมในตลาดมหาศาล ผู้ผลิตอุปกรณ์อื่นๆ จะ “กล้า” ออกมาทำอุปกรณ์ที่รองรับ USB Type C กันมากขึ้น เพื่อลดปัญหา สารพัดหัว USB ที่เกิดขึ้นในตลาดนั่นแหละครับ