ปัญหาใหญ่ของคนใช้งานมือถือเดี๋ยวนี้คือ การที่มือถือหายแล้วข้อมูลหายไปด้วย ขนาด Smartphone ตอนนี้มีบริการเก็บข้อมูลให้ คนก็แทบไม่ใช้กัน เพราะใช้กันไม่เป็น หรือ พื้นที่ไม่เพียงพอ ลองมาดู Capture App ของ Dtac ครับว่าจะตอบโจทย์คนใช้งานหรือเปล่า
Smartphone หลักๆ ที่คนเราใช้กันก็คือ iOS กับ Android .. ทั้งสองระบบปฏิบัติการมี Cloud Storage ที่เก็บข้อมูลไว้ใน Internet ให้อยู่แล้ว ดังนั้นเวลามือถือหายเนี่ย ถ้าคุณใช้ iCloud หรือ Google Account ยังไงพวกเบอร์โทร , Calendar , Note เนี่ย ไม่หายแน่นอน
แต่ปัญหาใหญ่ก็คือรูปครับ .. กล้องมือถือเดี๋ยวนี้ ถ่ายกันอย่างน้อย 8 ล้านพิกเซล ไฟล์นึงประมาณ 4MB แถมคนเรากดกันเป็นว่าเล่น เรียกได้ว่า มีพื้นที่เท่าไหร่ก็ไม่พอเก็บ
ก็เลยมีคนคิดบริการ Cloud Storage ขึ้นมามากมายเพื่อเอามาเสริมตรงนี้ เช่น Dropbox ก็มี Camema Uploads ที่คอยช่วยอัพโหลดรูปเราขึ้น Dropbox เพื่อป้องกันภาพหาย หรือ Flickr ก็ให้พื้นที่เก็บรูปฟรีตั้ง 1TB
แต่ปัญหาก็คือ Dropbox ก็คิดค่าพื้นที่แพงชิปหายยยย ส่วน Flickr App ก็ยังไม่ให้โหลดใน Store Thai ทำให้การ Backup รูปค่อนข้างมีปัญหา
หลายคนไปซื้อ SD Card หรือ External Harddisk มาเก็บรูป แต่สุดท้าย พอของหาย หรือการอัพเดทไม่ต่อเนื่องมันก็เลยเกิดการขาดช่วงของข้อมูลอยู่ดี
ทาง Dtac ก็เลยเปิดบริการใหม่ขึ้นมาตัวนึงชื่อว่า Capture App ครับ หน้าที่ของมันมีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน
- ทำการอัพโหลดรูปภาพและวีดีโอจากในเครื่องขึ้นในบน Cloud ของทาง dtac
- รูปที่อัพขึ้นไปสามารถนำมาสร้างเป็น Story เพื่อแชร์ใน Social Network ได้ด้วย
App นี้ถึงแม้ไม่ใช่ลูกค้าของ dtac ก็สามารถใช้ได้นะครับ แต่พื้นที่บริการจะมีแค่ 2GB เท่านั้น (ให้เท่า dropbox เลยแฮะ)
ตัว App มีให้โหลดทั้งบน iOS และ Android ครับ อย่างผมใช้ iOS ค้นหาด้วยคำว่า Capture App ได้เลย
พอติดตั้งมาเสร็จระบบจะให้เราลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ แล้วก็ให้เราตั้งรหัสผ่านด้วย ขอให้เป็นตัวเล็ก ผสม ตัวใหญ่ มากกว่า 6 ตัวอักษรนะครับ (หลายคนคงจะมึนส์เลยสิ ฮ่าๆ)
จากนั้นตัว App ก็จะถามว่า จะให้อัพโหลดภาพเก่าๆทั้งหมดเลยไหม และอัพโหลดโดยใช้ 3G ด้วยหรือเปล่า คำแนะนำของผมคือ อย่าเปิดอัพโหลดด้วย 3G เชียว เดี๋ยวหมดตัว
เมนูด้านซ้ายจะแสดงให้เห็นถึงส่วนหลักๆประมาณ 3 ส่วนด้วยกัน ตัวแรกคือ Photos .. ก็จะเป็นส่วนของการจัดการรูปใน Capture App ทั้งหมด จะอัพโหลด จะลบออก ทำผ่านตรง Photos ได้เลยครับ
ส่วนของ Story ก็จะเป็นเหมือนการเอารูปในเครื่อง หรือใน Capture App มาทำเป็น Photo Album ง่ายๆ แล้วก็แชร์ออกไปเป็น Story ผ่านทาง Social Network เช่น Facebook , Twitter นั่นแหละครับ
พอแชร์ Story ออกไปแล้วก็จะมีหน้าตาแบบนี้ครับ ซึ่งสามารถกด Download รูปได้ด้วยนะเนี่ย
ส่วนสุดท้ายก็คือ Setting เป็นตัวกำหนดพวกคุณภาพของภาพตอนที่อัพโหลดไปเก็บ หรือจะเปลี่ยนรูปแบบการ Backup ว่าจะให้เป็น Auto หรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม จากที่ลองทดสอบดู ระบบ Auto ทำงานได้ต่อเนื่องดี ความเร็วก็ไม่ได้แย่มากครับ ไหลไปเรื่อยๆ แต่พื้นที่เก็บข้อมูล 2GB นี่ยังไงก็ไม่พออยู่ดี แล้วจะเพิ่มพื้นที่ยังไงล่ะ
ทาง dtac ก็ฉลาดมากคร้าบ ใครเป็นลูกค้าของ dtac ใช้ฟรีแบบพื้นที่เต็มเหนี่ยว ตามโปรโมชั่นที่คุณจ่ายเลยครับ
นั่นก็คึอ ใครเป็นลูกค้ารายเดือน ใช้งานฟรี โดยที่ขนาดของพื้นที่จะเพิ่มขึ้นตาม โปรโมชั่นที่ใช้
ส่วนลูกค้าเติมเงิน สามารถใช้พื้นที่ 25GB ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้จนถึงสิ้นปี ถ้าอยากใช้ต่อ เดือนละ 39 บาทครับ
ถือว่าเป็นกลยุทธที่ร้ายกาจมากในการรักษาลูกค้า รวมไปถึง เรียกลูกค้าให้ย้ายค่ายข้ามมาของ Dtac เพราะค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา Cloud Storage ขนาด 100GB จะอยู่ที่ประมาณเดือนละประมาณ 400 บาท ครับ ถ้าเกิดใช้จ่ายเป็นค่ามือถืออยู่แล้วนี่ถือว่าแจ่มเลยนะครับ เหมือนประหยัดเงินให้ลูกค้าเกือบๆ 400 บาทต่อเดือน สำหรับลูกค้าที่ใช้นะ แถมยังทำ Auto Upload ผ่าน WIFI ได้อีก ดังนั้น อย่างน้อยถ้าคุณทำมือถือหาย ข้อมูลพวก Contact ทั่วไปมันก็อยู่ใน Google Contact หรือ iCloud อยู่แล้ว ส่วนรูปก็มาเก็บไว้ใน Cloud Storage ของ Capture App .. อื้มมม ค่อนข้างโอเคเลยครับ
รายละเอียดโปรแกรม
ชื่อ : Capture App
โดย : Telenor Digital AS
ขนาด : 8.1MB
Download
iOS : https://itunes.apple.com/th/app/capture-app/id633980795?mt=8
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.comoyo.capture&hl=en