Review: Bloodborne เกมสุดหินบน PS4 ที่สนุกจนอยากจะเขวี้ยงจอยทิ้ง!

เกมฟอร์มยักษ์อีกเกมของ PlaySTation 4 ที่หลายคนจับตามอง ที่ได้ทีมสร้างชื่อดังอย่าง From Software ที่มีผลงานอย่าง Demon’s Soul และ Dark Soul ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความยากสุดกู่จนแทบจะเขวี้ยงจอยทิ้ง แน่นอนว่าสำหรับ Bloodborne นั้นเรื่องของความยากนั้นก็โหดร้ายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อีกทั้งตัวเกมทางทีมงานพัฒนาให้กับ PS4 เป็น Exclusive พร้อมทั้งประกาศเอาไว้ด้วยว่าจะเป็นเกมที่ดึงศักยภาพของเครื่องออกมาอย่างเต็มที่

บรรยากาศของเกมจะเป็นโลกยุคสมัยช่วงวิคตอเรีย ในเมืองต้องคำสาปที่ชื่อว่า Yharnam ที่ผู้คนในเมืองนี้ถูกครอบงำด้วยอาถรรพ์ทำให้กลายเป็นปิศาจ ตัวเอกของเกมได้มาที่เมืองนี้เพื่อคลี่คลายปริศนาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งต้องเร่งพยายามหาวิธีแก้คำสาปที่ตนเองก็โดนอยู่ด้วยเช่นกัน

เกมเป็น Action RPG ที่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของผู้เล่นเป็นหลัก ความเก่งของตัวละครจึงไม่ได้อยู่ที่อาวุธหรือเครื่องป้องกันเพียงอย่างเดียว การจะเข้าไปสู้กับปิศาจแต่ละตัวถ้าเดินเข้าไปแลกแบบซึ่งๆ หน้า มีสิทธิพลาดท่าโดนสอยร่วงตายเอาได้ เพราะถึงแม้จะเป็นตัวกระจอกอยู่ตามทาง ถ้าคุณโดนมันอัดเต็มๆ แค่ไม่กี่ทีก็เละเป็นโจ๊กแล้ว

bloodborne-2

แถมพอตายไปแล้วเริ่มเล่นเกมที่จุด Checkpoint ก็อยู่ไกลจากจุดที่ตายชนิดที่ว่าแทบหมดอารมณ์เล่นต่อ และเมื่อตายไปบรรดาเงินที่เก็บไว้ก็จะตกอยู่ตรงตำแหน่งที่เราตาย ซึ่งเราสามารถกลับไปเก็บได้ ซึ่งมันมีความสำคัญมากในการซื้อและอัพเกรดอาวุธ และเพิ่ม Stat ของตัวละคร

จุดเด่นของเกมนี้ที่น่าสนใจก็คือเลือด ต้องบอกว่าเกมนี้เวลาสู้กับปิศาจนั้นเลือดสาดนองจอกันเลยทีเดียว แต่ว่าระหว่างที่สู้นั้น ถ้าหากเลือดกระเด็นมาอาบตัวของเรามันจะเป็นการฟื้นค่าพลังชีวิตที่เสียไปขณะที่ต่อสู้กับปิศาจตัวนั้นได้ นั่นคือถ้าเราจับจังหวะในการสู้ปิศาจให้ดีๆ เวลาเข้าไปแลกกับมันถึงแม้ว่าจะเสียพลัง แต่ได้อาบเลือดก็สามารถฟื้นพลังกลับมาได้ด้วยเช่นกัน

bloodborne-3

ลำพังพวกตัวจิ๊บจ้อยตามฉากว่ายากแล้ว เจอบอสแล้วนี่ต้องเรียกว่าเล่นครั้งแรกๆ แถบจะถอดใจเอาแผ่นไปขายมือ 2 ทิ้ง แต่ถ้าคุณสามารถจับจังหวะแล้วรู้รูปแบบการโจมตีของพวกมันแล้วก็สามารถสู้กับพวกมันได้ไม่ยาก แต่ก็อย่าได้ประมาทเพราะเผลอนิดเดียวก็อาจจะร่างแหลกนอนตายอนาถได้ทันที

เกมนั้นมีระบบออนไลน์แบบ Multi-player ที่ให้ผู้เล่นคนอื่นมาช่วยลุยด่านได้ แต่ว่าการจะเชิญให้คนอื่นเข้ามาลุยกับเราจะต้องเสียค่า Insigh ในการเรียกพวก ซึ่งค่านี้จะได้มาก็ต่อเมื่อเราไปเล่นออนไลน์ช่วยคนอื่นมาเช่นกัน

ในเกมมีอาวุธให้เลือกใช้มากมายไม่ว่าจะเป็น ดาบ, ขวาน, ปืน, ฆ้อน, ไม้เท้า ฯลฯ และอาวุธแต่ละอย่างยังเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ 2 แบบอีกด้วย อาวุธทุกชิ้นสามารถอัพเกรดเพิ่มพลังและใส่อัญมณีเข้าไปเพื่อเพิ่ม ability พิเศษได้ แต่ว่าเมื่อใช้ไปนานๆ อาวุธก็จะมีการเสื่อมสภาพทำให้ค่าพลังต่างๆ ลดลง ต้องเอาไปซ่อมแซมจึงจะดีเหมือนเดิม

bloodborne-1

ด้วยความยากของศัตรู รวมกับระบบอาวุธที่หลากหลาย ทำให้ Bloodborne เป็นเกมที่ผู้เล่นต้องใช้ฝีมือในการเล่นมาก บอกเลยว่าไม่ใช่เกมที่เล่นเพื่อคลายเครียดแน่นอน (เผลอๆ จะเครียดยิ่งกว่าเดิม) แต่นี่ก็คือเสน่ห์ของเกมแนวนี้ เพราะมันทำให้เกมมีมิติหลากหลาย ระบบที่เปิดให้ผู้เล่นใช้ทักษะในการต่อสู้เต็มที่ ความยากจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายในการเล่นให้เราฝ่าฟันไปให้ได้

ส่วนเรื่องของกราฟฟิกนั้นต้องยอมรับว่าทีม From Software ทำได้สุดยอดสมกับที่โม้ไว้เลย ทั้งภาพและแสงเงาต่างๆ สร้างบรรยากาศในเกมออกมาได้ชวนสะพรึง บรรดาปิศาจแต่ละตัวก็ออกแบบมาได้ชวนหลอนดี สมศักดิ์ศรีเกม Exclusive บน PS4 อย่างแท้จริง

bloodborne-4

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน