ก่อนวันเปิดตัว Galaxy Note 5 ก็มีข่าวหลุดออกมามากมายจนแทบไม่ต้องเดาเรื่องของสเป็กเครื่อง แต่สิ่งที่คนในวงการจับจ้องอยู่ก็คือเรื่องของ software และความสามารถที่จะเพิ่มเติมจากรุ่นก่อน ซึ่งครั้งนี้ Galaxy Note 5 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
สเป็ก Galaxy Note 5 ก็ตรงตามข่าวหลุดทุกประการคือ
- ซีพียู 8 core
- แรม 4 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB ไม่รองรับ microSD
- หน้าจอ 5.7 นิ้ว sAMOLED ความละเอียด QHD
- กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมกันสั่น OIS
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- รองรับการชาร์จไร้สาย
แม้ว่าในงานเปิดตัวจะพูดถึงมือถือสองรุ่นคือ Galaxy S6 edge plus กับ Galaxy Note 5 แต่เพราะความสามารถที่เหมือนกันแทบทั้งหมด จะต่างก็แค่ปากกา ทำให้คนแทบไม่พูดถึง S6 edge plus
ตัวเครื่อง Note 5 ออกแบบได้สมกับเป็นเรือธง ฝาหลังมีความโค้งที่ขอบแต่ละด้าน ช่วยให้การถือด้วยมือเดียวเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเดิม แต่ฝาหลังเปื้อนรอยนิ้วมือง่ายมาก ตัวกล้องยังคงนูนจากตัวเครื่องเช่นเคย ด้านข้างกล้องยังคงเคียงข้างด้วย heart rate sensor ที่ทำงานได้เร็วกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะการใช้แตะเพื่อถ่ายรูป เร็วในแบบที่แตะแล้วปล่อยก็ถ่ายให้ทันที… ถ้าแตะ-ปล่อยรัวๆ ก็ถ่ายรูปรัวๆ ตามไปด้วย
ความน่าสนใจอีกอย่างก็คือ ผู้บริหารแทบไม่พูดถึงสเป็กของ Note 5 นอกจากเรื่องแรม 4 GB และกล้องที่พัฒนามากขึ้น โดยกล้องได้เพิ่มระบบ VDIS+OIS ที่ช่วยกันสั่นได้ดีขึ้น และปากกาที่พัฒนามากขึ้น เพียงแค่กดที่ปากกา ตัวสปริงที่หัวปากกาก็จะดีดตัวออกมาเพื่อให้ดึงออกจากตัวเครื่องได้ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือปากกา S-Pen สามารถจดบันทึกแม้กระทั่งหน้าจอปิดอยู่
ตัว Air Command สามารถปรับแต่งแอพได้แล้ว และยังมีจุดเด่นตรงการจับภาพหน้าจอแบบ long screenshot ที่จะช่วยให้การจับภาพหน้าเว็บหรือแอพที่ยาวๆ ได้ง่ายขึ้น
ส่วนหน่วยความจำภายใน 32 GB ที่หลายคนกังวลว่าจะไม่พอใช้งานก็เหลือให้ใช้ราว 24.5 GB หลังจากเปิดเครื่องครั้งแรก
ในแง่ความเร็วก็ลื่นกว่า Note 4 แบบรู้สึกได้… แต่ก็ต้องรอดูการใช้จริงว่าจะช้าลงรึเปล่า แต่สิ่งที่หายไปก็คือรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า
ด้านคุณภาพของกล้องก็ยังคงบอกอะไรได้ไม่มากนัก แต่จากการทดสอบในงานก็ถือว่ากล้องทำได้ดีทั้งกล้องหน้าและหลัง โดยมีจุดเด่นคือกล้องถ่ายได้เร็วมาก และ Pro mode ได้ปรับปรุงความสามารถให้ทัดเทียมคู่แข่ง โดยสามารถปรับ Shutter speed ได้แล้ว
ช่วงเวลาหนึ่งของการเปิดตัว ซัมซุงได้พูดถึงความเป็นอันดับหนึ่งของกล้องมือถือ ที่ได้รับการยกย่องจากเว็บชื่อดังอย่าง DXO ดังนั้นการต่อยอดบน Note 5 จึงมั่นใจได้ว่ากล้องจะต้องยอดเยี่ยมแน่นอน
ด้านของอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจก็คือ Note 5 รองรับการชาร์จไร้สายที่ทำงานได้เร็วกว่ารุ่นเก่า และยังมีเคสแป้นพิมพ์ที่ช่วยให้พิมพ์ได้สนุกขึ้น ( ก็ต้องรอลุ้นว่าทางซัมซุงไทยจะเอาเข้ามาเมื่อไร )
ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า
เมื่อตอนเปิดตัว Galaxy S6 ทางซัมซุงก็ประกาศชัดว่าต่อไปนี้เราจะทำเครื่องให้ลื่นขึ้น ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป ซึ่งมันก็ส่งผลมายังฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึงหน้าตา UI ที่ปรับเปลี่ยนให้เรียบง่ายกว่าเดิม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ถูกส่งต่อมายัง Note 5 ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของกล้องที่ซัมซุงบอกว่าเว็บ DXO ยกย่องให้เป็นอันดับหนึ่ง แต่ถ้าตามไปอ่านในเว็บจะเห็นดราม่าเล็กๆ เพราะแฟนๆ ต้องการให้เว็บ DXO ทดสอบกล้อง LG G4 จะได้รู้ว่าใครเก่งกว่า แต่ทางเว็บปฏิเสธ และเลือกให้ Galaxy S6 edge เป็นมือถือที่กล้องดีที่สุด ตามด้วย Note 4 โดยที่หลายคนสงสัยว่าทำไมไม่ทดสอบ LG G4 ด้วย
และเท่าที่ได้ทดสอบกล้อง Note 5 ในงาน ก็ถือว่ากล้องทำงานได้ดีมาก ถ้าสังเกตจาก Pro mode ของ Note 5 เทียบกับ Manual mode ของ LG G4 ก็จะพบว่าช่วงของการตั้งค่า Note 5 เอื้ออำนวยให้ถ่ายในที่แสงเยอะ และถ่ายได้เร็ว แต่ของ LG G4 จะเอื้ออำนวยให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีกว่า
เมื่อนำ Note 5 มาถ่ายในที่แสงน้อยอย่างในงานเปิดตัว ก็จะมีรายละเอียดที่แย่กว่า LG G4 ซึ่งอาจเป็นเพราะตัวกล้องพยายามเกลี่ยสีเพื่อลบ noise เลยได้ภาพที่สีดูเป็นปื้นๆ ไม่คมเท่า LG G4 แต่ความเร็วในการถ่ายถือว่าเร็วกว่า LG G4 อยู่พอตัว …อย่างไรก็ตาม การทดสอบดังกล่าวเป็นเพียงการทดสอบคร่าวๆ โดยดูผลลัพธ์ผ่านทางหน้าจอมือถือซึ่งอาจจะมีตัวแปรที่ต่างกัน และทำให้ผลคลาดเคลื่อนได้
และถ้ามองที่ความสามารถของ Note 5 ที่สาวกบางคนก็บอกว่าไม่ค่อยมีอะไรใหม่ แต่จากที่ได้ลองเล่นก็รู้สึกว่ามันถูกปรับแต่งให้น่าใช้กว่าเดิมมาก อาจเรียกได้ว่านี่คือร่างเกือบสมบูรณ์ของ Galaxy Note แล้วล่ะ