สำหรับคอมพิวเตอร์ PC ปัจจุบันเริ่มมีการออกแบบให้มีขนาดที่เล็กลงเรื่อยๆ จะว่าไปแล้ว PC แบบที่เป็นแท่งแล้วเสียบกับจอก็ไม่ได้เป็นอะไรที่แปลกมาก แต่สำหรับ MagicStick นั้นแตกต่างออกไปตรงที่สเปคของมันแรงกว่า Computer Stick รุ่นก่อนหน้านี้ แถมยังมาพร้อมกับ Windows 10 ซะด้วย
ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เป็นโครงการระดมบน Indiegogo ที่มีคนสนใจลงขันผ้าป่าสนับสนุนไปมากกว่า $300,000 เกินกว่าเป้าหมายไปถึง 600% ด้วยความน่าสนใจตรงที่เป็นคอมพิวเตอร์ PC แบบแท่งเสียบใช้งานต่อจอได้ทันทีที่มีสเปคสูงกว่ารุ่นอื่นในตลาดที่มักจะให้มาแค่พอใช้งานพื้นฐานได้ แต่กับ MagicStick ต้องบอกว่ามันแรงขนาดที่สามารถเล่นสตรีมภาพยนตร์ระดับ 4K ได้ไม่กระตุก แถมยังเล่นเกมกราฟฟิค 3D ได้ด้วย
สเปคของ MagicStick
- CPU เป็นของ Intel รุ่นใหม่ล่าสุด 14 nm Cherry Trail Processor
- หน่วยความจำภายในแบบ Emmc 5.1 มี 2 รุ่นคือ 32 GB และ 64 GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 128 GB
- RAM LPDDR3 มีให้เลือก 2 GB และ 8 GB
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB3.1 รองรับการส่งผ่านข้อมูลได้มากกว่า 10 Gbps และยังมีช่องต่อแบบ USB Type-C
- เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi ความเร็ว 1 Gbps พร้อมรองรับเทคโนโลยี Beam Forming
- รองรับการแสดงผลผ่าน Wi-Fi (Airplay และ Miracast)
- รองรับ IOT (Internet of Thing)
- เล่นวิดีโอสตรีมมิ่งความระเอียดระดับ 4k ultra HD
- ติดตั้งระบบปฎิบัติการ Windows 10 และ Android มาให้ในตัว (สามารถติดตั้ง Linux เพิ่มได้)
- ใช้พลังงานเพียงแค่ 5 วัตต์
จะเห็นได้ว่ามันมีประสิทธิภาพในระดับเทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้อย่างสบายๆ สำหรับการเปิดระดมทุนใน Indiegogo มีแบ่งให้สั่งได้ 2 รุ่นคือ
MagicStick One ใช้ CPU Intel Cherry Trail Z8300 Quad-core 1.83 GHz, GPU แบบ 12 Core, RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 32 GB ราคาขายหลังจากระดมทุนตั้งไว้ที่ $199
MagicStick Wave ใช้ CPU Intel Cherry Trail Z8700 Quad-core 2.40 GHz, GPU แบบ 16 Core, RAM 8 GB, หน่วยความจำภายใน 64 GB ราคาขายหลังจากระดมทุนตั้งไว้ที่ $399
โดยที่สินค้าจะเริ่มจัดส่งให้ผู้ที่ร่วมระดมทุนชุดแรกในเดือนธันวาคม 2015 ที่จะถึงนี้ สำหรับรุ่น MagicStick One
ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า
ใครจะคิดว่าคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ยักษ์เมื่อ 10 กว่าปีก่อน มันจะสามารถหดลงมาเหลือเล็กเป็นแท่งแค่นี้ได้ สำหรับคอมพิวเตอร์แบบแท่งนั้นต้องเรียกว่าช่วยให้นำไปใช้งประโยชน์ในการทำงานต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องของการประหยัดพื้นที่, ประหยัดพลังงาน, ใช้ในโปรเจคงานที่ต้องการความคล่องตัว ฯลฯ แล้วเจ้าตัวนี้มันโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ตรงสเปคที่ดูแล้วน่าจะมีอนาคตยาวๆ ไปได้ 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย ในราคาที่ไมไ่ด้แพงเว่อร์จนเกินไป แถมยังมี Microsoft Windows 10 มาให้ด้วย