Elephone คงไม่คุ้นหูคนไทยสักเท่าไร แต่ถ้าลองไปค้นดูจะเห็นว่ามันคือมือถือสเป็กดีราคาถูกอีกค่ายที่น่าสนใจ แบบที่ว่าราคาไม่กี่พันก็มีสแกนลายนิ้วมือให้ใช้ด้วยล่ะ แต่อาจเพราะการตลาดไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไรก็เลยปรับแผนหันมาใช้วิธีระดมทุน ซึ่งต่างจากการระดมทุนของที่อื่นเพราะไม่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน แต่มาในลักษณะของส่วนลด
วันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา Elephone ได้เปิดตัวมือถือใหม่ 2 รุ่นคือ P9000 และ P9000 Lite ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มสเป็กทั้งคู่ เริ่มจาก P9000 ที่เลือกใช้สเป็กดังนี้
- ซีพียู MediaTek Helio P10 (8 core, 2.0 GHz)
- จีพียู Mali-T860
- แรม 4 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB รองรับ microSD สูงสุด 256 GB
- หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว LG, LTPS OGS ความละเอียด Full HD
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและ laser focus
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 3000 mAh
- รองรับการชาร์จเร็ว
- รองรับการชาร์จแบบไร้สาย
- รองรับ NFC
- รองรับการสแกนนิ้ว
- เชื่อมต่อผ่าน USB-C
ส่วนรุ่น P9000 Lite ถูกลดสเป็กมาเล็กน้อยคือรองรับ microSD สูงสุด 128 GB กล้องหน้าลดลงเหลือ 5 ล้านพิกเซล และถูกตัดระบบชาร์จเร็ว ชาร์จไร้สายและ NFC ออกไป
ประเด็นสำคัญก็คือเรื่องของราคาที่มี gimmick ให้คิดตามเล็กๆ เพราะว่าในการระดมทุนครั้งนี้จะให้เลือกได้ว่าจะจ่าย 5 usd หรือ 3 usd ซึ่งสิ่งที่ได้รับคือส่วนลดมูลค่า 50 usd และ 30 usd ตามลำดับ ซึ่งเมื่อหักลบส่วนลดแล้วก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนซื้อ P9000 ในราคาประมาณ 200 usd หรือราวๆ 7,200 บาทเท่านั้น!!! ส่วนรุ่นเล็กอย่าง P9000 Lite ตกราวๆ 150 usd หรือ 5,400 บาทกับสเป็กสุดแสนอลังการแบบนี้
และที่สำคัญคือ ยิ่งมีคนระดมทุนมากเท่าไร ราคาก็ยิ่งถูกลงแค่นั้น! ซึ่ง ณ เวลาที่เขียนข่าวนี้มีคนลงขันรวมทั้งสองรุ่นที่ราวๆ 4,500 คนแล้ว และการระดมทุนนี้จะเปิดถึงวันที่ 15 มกราคมปีหน้า ถ้าสนใจก็เข้าไปวู่วามกันได้ที่ http://www.elephone.hk/P9000Event
ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า
นับเป็นโมเดลการตลาดที่น่าสนใจมากครับสำหรับ Elephone P9000 ครั้งนี้ เพราะจะให้โหมลงเงินโฆษณาแบบ Samsung ก็คงไม่ไหว ถ้าจะเล่น viral แบบ Xiaomi ก็ต้องเด่นจริงๆ ดังนั้นการที่ Elephone เลือกทำ crowdfunding จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะถ้ามีคนลงเงินมากเท่าไร ก็ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นว่ามีคนรอซื้อ ถือเป็นการลดความเสี่ยงทางนึง และยิ่งผลิตจำนวนมากก็ช่วยลดต้นทุนได้ ทำให้เกิดการกระตุ้นหรือบอกเพื่อนต่อเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกกว่าเดิม
และยิ่งเจอสเป็กนี้กับราคาหลักพัน ผมถึงกับขยี้ตาแล้วอ่านข่าวซ้ำอีกรอบเพราะไม่เชื่อว่ามันจะถูกขนาดนี้… แต่ประเด็นสำคัญก็คือหลังจากการระดมทุนเสร็จสิ้นแล้ว ต้องใช้ระยะเวลาเท่าไรกว่าที่เครื่องจะถูกส่งมอบถึงมือ… นี่แหละความเสี่ยงของ crowdfunding
ที่มา: gizchina
