Review : Obi SF1 สมาร์ทโฟนเน้นดีไซน์สวย สเปคดี ประสิทธิภาพครบครัน

ในปี 2015 เรียกได้ว่าในไทยเรามีมือถือแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดกันเยอะมาก และนี่ก็ถือเป็นอีกแบรนด์เกิดใหม่ในวงการมือถือของโลก กับชื่อว่า “Obi” แน่นอนว่าเห็นครั้งแรกเราไม่รู้หรอกว่ามีที่มาที่ไปมาจากไหน แต่เช็คจากข่าวต่างประเทศจึงได้รู้ว่า Obi เป็นการรวมตัวของบุคคลในแวดวงธุรกิจไอทีชั้นนำหลายคนเลยทีเดียว

เริ่มตัวคนที่พูดชื่อขึ้นมาแล้วหลายคนน่าจะรู้จัก นั่นคือ จอห์น สกัลลี่ อดีต CEO ของเป๊บซี่ที่ สตีฟ จ็อบส์เคยชวนให้มาเปลี่ยนโลกด้วยการมารับตำแหน่งเป็น CEO ของ Apple (ที่ตอนหลังก็ไล่สตีฟออกจากบริษัทของตัวเองไปนั่นล่ะ) ซึ่งก่อนหน้านี้สกัลลี่ก็ได้ไปเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Start Up ดังๆ หลายตัว ที่มีชื่อเสียงล่าสุดก็ได้แก่ Misfit ที่เป็นอุปกรณ์ Fitness Tracker

นอกจากนี้ยังมี Robert Brunner ผู้ก่อตั้ง Ammunition Group สตูดิโอด้านการออกแบบชั้นนำ และเคยทำงานร่วมกับ Apple ด้วยเช่นกัน, Neeraj Chauhan ผู้ก่อตั้ง eSys ที่เป็นธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายและดูแลด้านสายการผลิต, Simon White อดีต CFO, COO บริษัทด้านเงินทุนขนาดใหญ่ และ Satjiv Chahil อดีต CMO ของ Apple และ Palm และเคยทำงานให้กับ Apple และ Sony อีกด้วย

เรียกได้ว่าบรรดารายชื่อของผู้ที่มาก่อตั้งบริษัทนี้ ล้วนมาจากสายแข็งในการทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีอันดับต้นๆ ของโลกมาแล้วทั้งนั้น เกริ่นนำมาขนาดนี้แล้ว มาดูตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Obi ที่เข้ามาขายในไทยกันดีกว่าว่ามันจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

sf1-live-at-lifespeed2

สำหรับรุ่นที่เข้ามาเปิดตัวนำร่องจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นแรกคือ Obi SF1 ที่หน้าตาของมันก็ดูแปลกตากันตั้งแต่ตัวแพคเก็จกล่องที่ต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาดคือเป็นกล่องพลาสติกใส ที่โชว์ให้เห็นตัวเครื่องแบบรอบด้าน แกะกล่องมาด้านในจะมีอุปกรณ์เสริมเป็นสาย USB พร้อมที่ชาร์จ และเข็มสำหรับจิ้มถาดซิมออกมา (ไม่มีหูฟังแถมให้นะ)

Obi-sf1-review-package

Obi SF1 Specification

  • รองรับคลื่นความถี่ GSM: 850/900/1800/1900 MHz  WCDMA: 850/900/1900/2100 MHz   4G LTE: FDD B3 1800 MHz & TDD B40 2300 MHz
  • ขนาด : 146 x 74 หนา 8 mm (ตัวเครื่องหนา 7.8 mm ส่วนความหนาของกระจกจอ 0.2 mm) วัสดุเป็นโลหะแบบ unibody
  • หน้าจอ : 5 นิ้ว JDI In-Cell IPS ความละเอียด Full HD (443 ppi) กระจก Corning® Gorilla® Glass 4 เคลือบด้วยสาร Oleophobic ลดการเกิดรอยนิ้วมือ
  • ระบบปฎิบัติการ : Android 5.0.2 Lollipop
  • ชิปเซต : Qualcomm® MSM8939 Snapdragon™ 615 1.5 GHz 64-bit Octa-core  และหน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno™ 405
  • หน่วยความจำ : RAM 2GB พื้นที่เก็บข้อมูล 16GB เพิ่มหน่วยความจำ microSD ได้สูงสุด 64GB
  • กล้องด้านหลัง : 13 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัสพร้อม LED Flash เซนเซอร์ Sony Exmor IMX214 Sensor รูรับแสง f/2.0
  • กล้องด้านหน้า : 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash
  • SIM: Dual SIM (1 Micro + 1 Nano / MicroSD™ card expandable up to 64 GB)
  • WLAN : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Dual-Band, Wi-Fi Direct
  • Bluetooth : v4.0, A2DP
  • เชื่อมต่อดาวเทียม : GPSA-GPS
  • USB : MicroUSB v2.0
  • แบตเตอรี่ : 3000 mAh Li-Po พร้อมระบบ Quick Charge™ 1.0

รูปลักษณ์ภายนอก

จุดเด่นของ Obi SF1 ตั้งแต่เห็นครั้งแรกก็คือการออกแบบที่ไม่เหมือนกับสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นในท้องตลาดโดยตัวเครื่องจะมีออกแบบให้โค้งมนในส่วนด้านล่างแต่ด้านบนจะเป็นเหลี่ยม ลองถือแล้วถนัดมือใช้ได้ด้วยขนาดเครื่องที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก โดยมีขนาดที่ 146 x 74 มม. และหนา 7.8 มม. หนัก 147 กรัม ถือว่ากำลังดีและใช้มือเดียวได้ถนัด และหน้าจอมีขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 443 ppi ถือว่าคมชัดในระดับที่น่าพอใจ

Obi-sf1-review

ปุ่มต่างๆ วางไว้ในตำแหน่งที่ใช้งานได้ถนัด ช่องเสียบ micro USB อยู่ด้านล่างส่วนช่องหูฟัง 3.5 มม.อยู่ด้านบน ส่วนด้านหลังก็เรียบๆ มีโลโก้ของ Obi อยู่ที่ด้านล่าง สำหรับช่องใส่ซิมจะต้องใช้เข็มจิ้มออกมา เป็นถาดซิมแบบรองรับ 2 :ซิม hybrid (micro sim และ nano sim) ส่วนซิมช่องที่ 2 สามารถเลือกได้ว่าจะใส่เป็นซิมหรือ microSD เพื่อเพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุด 64GB

ความเด่นในด้านการออกแบบอีกอย่างก็คือกระจกด้านหน้าเครื่อง ที่ใช้เป็นแบบยกสูงขึ้นมาประมาณ 2 มม. ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ โดยที่วัสดุนั้นใช้เป็น Gorilla Glass 4 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีความทนทานมากกว่าเดิม นอกจากนี้ตัวเครื่องยังเคลือบสาร oleophobic เพื่อลดการเกิดรอยนิ้วมือบนตัวเครื่อง ช่วยให้ไม่ต้องคอยเช็ดเครื่องอยู่ตลอดเวลา

Obi-sf1-review-2

หน้าตาเมนูการใช้งานและ User Interface

เปิดมาที่หน้าของ Lock Screen เห็นแว๊บแรกผมนี่นึกถึง iPod หรือเครื่องเล่นเพลงเลย จากที่หน้า Lock Screen สามารถเลือกเปิดกล้องหรือโทรออกได้เลย โดยลากจากจุดตรงกลางวงไปที่ไอค่อน แต่ถ้าอยากจะปลดล็อคก็ลากขึ้นด้านบน ส่วนตัวแอบไม่ชอบนิดๆ กับ UI นี้เพราะเห็นครั้งแรกคิดว่าจะเป็นแตะแล้วหมุนตามเส้น แถมไอค่อนปลดล็อคยังเหมือนรูปสแกนนิ้วมือ (แต่เครื่องไม่มีระบบสแกนมาให้นะ) เลยรู้สึกสับสนนิดหน่อย

sf1-live-at-lifespeed1

เข้ามาที่ตัวเครื่อง ทั้งหน้า Home และ App Drawer มีเป็นปกติตามมาตรฐานของของ Android 5.0.2 แต่มีครอบ UI ของทาง Obi เองที่ออกแบบมาสวยและเข้ากับดีไซน์ของตัวเครื่อง โดยรวมแล้วเมนูต่างๆ ใช้งานได้ง่ายไม่มีอะไรหวือหวาแหวกแนว หรือต้องศึกษาอะไรเพิ่ม เคยใช้ Android มาก็ใช้งานได้โลด

ประสิทธิภาพของตัวเครื่อง

ตามสเปคของ Obi SF1 นั้นใช้ตัวชิปเซตเป็นของ Qualcomm® MSM8939 Snapdragon™ 615 Octa-core ความเร็วที่ 1.5 GHz รองรับสถาปัตยกรรมแบบ 64-bit และหน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno™ 405 ถือว่าเป็นชิปเซตยอดฮิตสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ไว้ใจได้ในการทำงานรอบด้าน หรือจะเล่นเกมก็ยังพอเอาไหวอยู่

สำหรับ RAM ที่ให้มาจะเป็น 2GB และหน่วยความจำ 16GB ถือว่าอยู่ในระดับปานกลางเช่นกัน แต่ตัวเครื่องที่ทางเราได้มาทดสอบเป็นรุ่น RAM 3GB และหน่วยความจำ 32GB จากการใช้งานเป็นเครื่องหลักถือว่าน่าพอใจ ทั้งการใช้งานทั่วไปไม่ว่าจะเล่นเนต, โซเชียล, เล่นเกม, ฟังเพลง ฯลฯ แต่ถ้าเปิดแอพหลายๆ ตัวก็มีอาการหน่วงให้เห็นอยู่บ้าง แนะนำให้หมั่นเคลียร์ RAM บ้างก็ถือว่าโอเค

ระบบเสียง

เป็นอีกสิ่งที่ทาง Obi ชูเป็นจุดขายของ Obi SF1 ด้วยระบบเสียง Dolby Audio แบบ Multi Chanel ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูหนังฟังเพลงผ่านหูฟัง สำหรับลำโพงของตัวเครื่องเองก็ถือว่าดังใช้ได้ นอกจากนี้ยังมี Noise cancellation ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนขณะที่พูดสนทนา

กล้องและการถ่ายภาพ

มาถึงเรื่องที่สำคัญอีกส่วนของการใช้งานสมาร์ทโฟนยุคนี้ก็คือ การถ่ายภาพ ใน Obi SF1 นั้น ตัวกล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัสพร้อม LED Flash โดยที่ใช้เซนเซอร์ของ Sony Exmor IMX214 Sensor รูรับแสง f/2.0 ดูตามสเปคแล้วถือว่าน่าสนใจไม่น้อย ลองเปิดใช้งาน ตัวแอพของกล้องมีฟีเจอร์พิเศษที่น่าสนใจอยู่ 3 ตัวด้วยกันคือ

  • UbiFocus เป็นการถ่ายภาพแล้วสามารถมาเลือกปรับตำแหน่งที่ต้องการโฟกัสภายหลังได้
  • ChromaFlash ระบบการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลชในที่มืด ที่ให้โทนภาพที่สีนวลดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ด้วยหลักการถ่ายภาพ 2 ภาพพร้อมกันคือภาพที่ยิงแสงแฟลชและไม่มีแฟลช แล้วเอา 2 ภาพมาประมวลผลรวมกันเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด
  • OptiZoom ช่วยให้การถ่ายภาพแล้วซูมภาพหลังโดยที่ไม่เกิด noise หรือรายละเอียดของภาพลดลง

ครั้งแรกที่เปิดหน้าเมนูกล้องของ Obi SF1 แล้วเห็นหน้าตาเมนูกล้อง บอกตามตรงเลยว่านึกถึงเมนูกล้องของสมาร์ทโฟน i-mobile ขึ้นมาทันที เพราะว่าเป็นตัวเดียวกัน ซึ่งฟีเจอร์กล้องชุดนี้เป็นของมาตรฐานในชิปเซต Qualcomm นั่นเอง

มาถึงเรื่องของกล้องหน้ากันบ้าง ความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล และมีแฟลช LED มาให้ด้วย ช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาพแสงน้อยได้ชัดหน้าไม่มืด แต่ต้องแอบติอยู่หน่อยคือกล้องหน้าแทบจะไม่มีฟีเจอร์อะไรในการถ่ายภาพเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโหมด Beauty ปรับหน้าเนียนนั้นไม่มีมาให้ เวลาถ่ายเซฟฟี่เสร็จก็ต้องอาศัยแอพอื่นมาช่วยเกลี่ยให้เนียนเรียบกันเอาเอง

สรุป

Obi SF1 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ค่อนข้างจะคุ้มค่ากับค่าตัวราคา 7,290 บาท (ขายผ่านทาง Lazada) แถมเมมฯ ให้ 32 GB การใช้งานต่างๆ ตอบโจทย์ได้ดีไม่มีปัญหา ตัวเครื่องที่เป็นหน้าจอ 5 นิ้ว Full HD ถือว่าคมชัดและทำให้เครื่องขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถใช้งานมือเดียวได้อย่างสะดวก สิ่งที่ต้องชมและประทับใจมากที่สุดคือการออกแบบตัวเครื่อง ถึงแม้บางคนเห็นแล้วจะรู้สึกมันเหมือนกับเอาดีไซน์ของหลายๆ ยี่ห้อมารวมกัน แต่ผมเองลองจับลองถือลองใช้แล้วถือว่าเป็นอีกตัวที่ชอบทั้งด้านของการออกแบบและงานประกอบ

ส่วนเรื่องของประสิทธิภาพกล้องด้านหลังถือว่าดีใช้ได้ ถ่ายภาพในชีวิตประจำวันได้ครบ ทั้งภาพวิว, ภาพชัดตื้น, ถ่ายในที่แสงน้อย, ย้อนแสง (HDR) ฯลฯ น่าเสียดายที่ไม่มีปรับแบบ Manual และก็แอบเชียร์ให้ทาง Obi เอาตัว SF1 รุ่น RAM 3Gb และ Rom 32GB เข้ามาขายด้วยก็จะดีมาก

จุดเด่น

  • ตัวเครื่องดีไซน์สวย แปลกตา ไม่เหมือนใคร
  • ขนาดจับถนัดมือ ใช้งานด้วยมือเดียวได้สบาย
  • กล้องฟีเจอร์ครบ ใช้งานง่าย

จุดด้อย

  • หาเคสสำหรับใส่ลำบาก
  • รองรับ 4G ย่านความถี่ 1800 MHz คลื่นเดียว
  • กล้องหน้าเซลฟี่ไม่มี Beauty mode

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน