Samsung ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวผู้นำคนใหม่เพื่อเอาไว้สู้ศึกในตลาดธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่
อย่างที่รู้ๆกันว่าตลาดธุรกิจ mobile business นั้น นับวันการแข่งขันจะเริ่มรุนแรงและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนว่ายักษ์ใหญ่จากแดนกิมจิอย่างซัมซุงก็เริ่มจะหนืดๆ ตามหลังคู่แข่งรายต่างๆอยู่ และโดยแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดในตลาดนี้ไปพอสมควร
แล้ว Samsung ทำการปรับกลยุทธ์ยังไงสำหรับสถานการณ์แบบนี้?
ด้วยเหตุนี้เอง ซัมซุง อิเลคโทรนิค จึงประกาศเปลี่ยนตัวผู้นำของส่วน mobile division ใหม่ จากเดิมที่คุมโดยนาย J.K. Shin เปลี่ยนมาเป็น นาย Dongjin Koh ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำ และรับผิดชอบในส่วนของ mobile business แทน
ก่อนที่จะประกาศการเปลี่ยนแปลง J.K. Shin นั้นควบ 2 ตำแหน่ง ทั้งผู้นำ และ ประธาน ในส่วน mobile business ของซัมซุง
หลังการประกาศการเปลี่ยนแปลง ทำให้ตำแหน่งประธาน (president) ตกเป็นของนาย Dongjin Koh ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากในการพัฒนาสมาร์ทโฟน 2 รุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่าง Galaxy S6 และ Galaxy Note 5 ในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าของแผนกวิจัยและพัฒนาอยู่
สำนักข่าวรอยเตอร์กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า การที่ซัมซุงให้ นาย JK๋ ดำรงตำแหน่ง Head of Mobile อยู่ เพราะเล็งเห็นว่า Shin จะโฟกัสไปที่กลยุทธ์และการวางแผนแบบระยะยาว รวมไปถึงโอกาสในการเติบโตของซัมซุงด้วย
หากมองดูจากผลการดำเนินงาน จะพบว่าซัมซุงนั้นยอดขายลดลงพอสมควรในช่วง 2 ปีมานี้
ที่สำคัญ ประเทศจีน ถือเป็นตลาดสำคัญที่ควรยึดส่วนแบ่งการตลาดไว้ให้ได้ แต่ซัมซุงก็มียอดขายตามหลังผู้ผลิตยี่ห้ออื่นๆอย่าง Apple , Xiaomi และ Huawei
จะว่าไป การเปลี่ยนแปลงผู้นำของซัมซุงในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่พอสมควรที่เกิดขึ้นกับฝ่ายบริหารของบริษัทฯ หลังจากที่นาย Lee Jae Yong รับหน้าที่ความรับผิดชอบต่อจาก Lee Kun Hee chairman ของซัมซุงกรุ๊ปและผู้เป็นพ่อ
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นาย Lee Jae Yong ก็ชนะการโหวตจากผู้ถือหุ้น และได้รับอนุมัติให้ทำการรวมบริษัทในเครือของซัมซุง 2 บริษัท อย่าง Cheil Industries และ Samsung C&T เข้าด้วยกัน ซึ่งส่งผลให้เขามีอำนาจเหนือ ซัมซุง อิเลคโทรนิค ยิ่งขึ้นไปอีก
สำหรับการเปลี่ยนแปลงผู้นำในส่วนของ mobile business จะทำให้ธุรกิจของซัมซุงดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ ยังไม่มีใครสาามารถสรุปได้ ยังไงคงต้องจับตาดูการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ของซัมซุงว่าจะออกมาในทิศทางไหน? product ที่จะออกมาใหม่ ได้ปรับปรุง แก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับรุ่นก่อนๆหรือไม่ และ มีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆมานำเสนอลูกค้าหรือไม่ . . . เราคงต้องติดตามดูกันต่อไปครับ 🙂
ข้อมูลจาก : techcrunch
รูปภาพจาก : mashable
