“Book 9” คอมพิวเตอร์แล็บท็อปใหม่จาก Samsung ที่ทั้งเน้นความ บาง และ เบา ที่เปิดตัวในงาน CES 2016
ถ้าพูดถึงความบาง และ เบาของคอมพิวเตอร์แบบพกพา หลายๆคนคงคิดถึง Ultrabook ก่อน
แต่คุณอาจจะเปลี่ยนความคิดได้ เมื่อพบกับ “Book 9” คอมพิวเตอร์ Notebook ตัวใหม่จาก Samsung ซึ่งถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2016
โดยเจ้า Book 9 นั้น เป็น Windows laptop ที่บางเฉียบ โดยมีขนาดหน้าจอ 2 รุ่นที่แตกต่างกัน
- หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว จะมีน้ำหนัก 0.84 กิโลกรัม
- หน้าจอขนาด 15 นิ้ว จะมีน้ำหนัก 1.29 กิโลกรัม
laptop ตัวนี้ไม่เพียงแค่น้ำหนักเบาเท่านั้น แต่ความบางของมันก็น่าสนใจไม่น้อยเลย
เพราะดูเผินๆแล้ว คุณอาจจะเผลอคิดไปได้ว่า มันไม่น่าจะมีแบตเตอรี่ข้างในแน่ๆ ก็แหม่ บางซะขนาดนั้น
เพราะความบางเฉียบนี่แหละ ที่ทำให้อดคิด และกังวลไม่ได้ในหลายๆเรื่อง เช่น keyboard backlight และประเด็นที่สำคัญที่สุด คือ อายุของแบตเตอรี่
laptop ตัวนี้ มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ซึ่งจากแหล่งข่าว The Verge ได้ทำการดูเรื่องแบตเตอรี่แล้วจาก Book 9 ขนาด 15 นิ้ว โดยระบบบอกว่าใช้งานได้ 3 ชั่วโมง 33 นาที ขณะที่แบตเตอรี่เหลืออยู่ 89%
มาดูกันเรื่องการระบายความร้อน เพราะด้วยความบางที่บางเฉียบขนาดนี้ หลายคนคงสงสัยและคิดได้ว่า มันไม่น่าจะมีพัดลมระบายอากาศ แต่ที่หลังเครื่อง จะมีรูระบายอากาศ 2 รูใช้ในการระบายความร้อนออกมา
คอมพิวเตอร์ทั้ง 2 รุ่น ใช้ตัวประมวลผล Skylake ตัวล่าสุดจาก Intel และสเปคของมันก็อัพได้สูงสุดดังนี้
- CPU ตัว Core i7
- RAM 8 GB
- SSD ขนาด 256 GB สำหรับรุ่น 15 นิ้ว และ 128 GB ขนาด 13 นิ้ว
หน้าจอแสดงผลของ Book 9 นั้นถูกจำกัดอยู่ที่ 1080p และหน้าจอไม่เป็นแบบทัชสกรีน
อย่างไรก็ตาม รุ่นหน้าจอ 15 นิ้ว ไม่มีพอร์ต USB-C และความสามารถชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งที่จริงมันควรจะมีมาให้
บานพับของตัว laptop ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะ มันสามารถเปิดและพับได้ 180 องศา
จากการทดสอบ keyboard ของมันของทาง the verge นั้นตอบสนองได้ดี
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ทาง Samsung ยังไม่สรุป Final spec , ราคา และ วันที่วางขาย . . . เราคงต้องติดตามข่าวต่อไป
ความเห็นของทีมงานล้ำหน้ากับ laptop Samsung “Book 9”
เรื่องความบางและความเบา เป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก เพราะ มันคงจะพกพาสะดวกมากๆเลย
แต่สิ่งที่ยังคงเป็นคำถาม คือ อายุของแบตเตอรี่ว่า มันจะสามารถใช้งานได้นานแค่ไหน?
ส่วนสเปคนั้น ยังไม่มีการสรุปออกมาว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไง เราคงต้องติดตามข่าวต่อไป 🙂
ข้อมูลจาก : theverge