ทางการจีนมีแผนจะสร้างระบบที่ใช้วิเคราะห์แผนการก่อการร้าย เพื่อจะได้ยับยั้งเหตุการณ์นั้นๆทัน ก่อนผู้ก่อการร้ายจะลงมือทางการจีนมีแผนที่จะลดภัยคุกคามต่างๆในประเทศลง เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้ประเทศ โดยสั่งการให้ทาง China Electronics Technology Group พัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลต่างๆของประชากรชาวจีน เช่น
- อาชีพการงาน
- งานอดิเรก
- พฤติกรรมการบริโภค
- และ พฤติกรรมด้านอื่นๆ
เพื่อใช้ในการทำนายพฤติกรรมและการกระทำของพวกผู้ก่อการร้ายก่อนที่พวกเขาจะก่อเหตุร้ายขึ้น
ซึ่งทาง Wu Manqing หัวหน้าทีมวิศวกรของทีมทหารรับจ้างกล่าวกับเรื่องนี้ไว้กับสื่อตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า
มันสำคัญมากที่จะต้องทำการสืบหาสาเหตุหลังจากที่เหตุรุนแรงเกิดขึ้น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ การทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อมา
โปรแกรมที่ว่านั้น ไม่เคยมีมาก่อน เพราะมันยังไม่มีสิ่งที่ป้องกันจากกฎหมายที่ปกป้องเรื่องความเป็นส่วนตัว และสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน
ซึ่งโปรเจคดังกล่าวนั้นใช้ประโยชน์จากเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีอยู่ของผู้แจ้งเบาะแส ซึ่งตั้งขึ้นโดยพรรคคอมมิวนิสต์ เพื่อใช้ในการติดตามทุกสิ่ง ตั้งแต่การละเมิดการวางแผนครอบครัว ไปจนถึงพวกที่มีพฤติกรรมนอกรีตต่างๆ
ร่างกฎหมาย cybersecurity ที่ออกมาเมื่อเดือนกรกฎาคมนั้น เปิดสิทธิ์ให้ทางรัฐบาลปลดการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของ user โดยใช้เหตุผลเรื่องความมั่นคงของชาติ
การพัฒนาโปรแกรมดังกล่าวขึ้นมา ไม่ต่างจากการสร้างลูกแก้วพยากรณ์ขึ้นมา เพื่อใช้ในการทำนายเหตุร้าย หรือ การโจมตีจากผู้ก่อการร้าย เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรม และทำให้โลกสงบขึ้น แต่ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบความปลอดภัยกล่าวว่า การมีข้อมูลที่มากมายเยอะแยะ มันก็ดี แต่อีกนัยหนึ่ง มันก็เป็นอะไรที่ยุ่งยาก
โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ไม่ว่าจะเก็บข้อมูลมาได้มากมายเพียงใด แต่ไม่มีตัวอย่างพฤติกรรมของผู้ก่อการร้ายเพียงพอที่จะนำมาใช้เป็นโมเดล หรือต้นแบบพฤติกรรมที่คล้ายกับข้อมูลที่ได้มา ก็ดูจะไร้ประโยชน์
มันเหมือนกับ ถ้าเกิดเราต้องการใช้ยีสต์เพื่อมาทำขนมปัง ถ้าเกิดไม่มียีสต์เพียงพอ คุณก็ไม่สามารถใส่แป้งเพิ่มเพื่อทดแทนส่วนที่ขาดไปของยีสต์ได้ และไม่สามารถทำขนมปังออกมาได้ในที่สุด
การทำงานของเจ้าโปรแกรมดังกล่าวนั้น จะเพ่งเล็งไปที่พฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น ประชากรที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ยากจน แต่กลับมีเงินในบัญชีธนาคารมหาศาล หรือคนที่มีดูจะไม่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคนในต่างประเทศ แต่กลับมีโทรศัพท์ทางไกล หรือโทรฯไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นการสังเกตเบื้องต้นของบุคคลที่จะเป็นผู้ก่อการร้าย
ผู้บริหารท่านหนึ่งของ China Electronics Technology กล่าวเกี่ยวกับเจ้า anti-terrorism software ว่า pilot test หรือการทดสอบนำร่องน่าจะประสบความสำเร็จกว่าการทดสอบทั่วประเทศ เพราะ เขาโฟกัสไปที่ประชากรเพียง 22 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเขตซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน และประชากร 3 ล้านคนในแถบเทือกเขาทิเบต
แต่อย่างไรก็ตาม พวกนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และ นักวิเคราะห์จากหลายแหล่งนั้นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ข้อมูลที่ถูกรวบรวมไปนั้น อาจถูกนำมาใช้ในทางที่มิชอบก็เป็นได้ ซึ่งแทนที่จะใช้ไว้เพื่อป้องกันการก่อการร้าย อาจจะทำให้เกิดผลเสียจากข้อมูลที่เก็บไปได้
คงต้องรอดูกันต่อไปว่า เจ้า anti-terrorism software ของจีนนั้น จะออกมาในรูปแบบไหนกันแน่ครับ
ข้อมูลและรูปภาพจาก : Bloomberg