ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีกระแสข่าวลือจากหลายๆ สื่อในต่างประเทศเกี่ยวกับเครื่องเล่นเกม PlayStation 4 ของค่าย Sony กำลังมีโปรเจคพัฒนาเพื่ออัพเกรดความสามารถให้ดีกว่ารุ่นปัจจุบัน โดยสื่อเรียกชื่อของมันว่า PlayStation 4.5 บ้างก็บอกว่ามันจะใช้ชื่อว่า PlayStation 4K และไม่นานมานี้ก็มีข่าวว่าโปรเจคนี้มีชื่อว่า “NEO”
ประเด็นเรื่องนี้มีการเสริมน้ำหนักเข้าไปอีกจากการสัมภาษณ์ทาง Game Informer ของคุณชูเฮย์ โยชิดะ หัวเรือใหญ่ของ PlayStation เกี่ยวกับเรื่องของ PlayStation 5 ว่าหน้าตาของมันจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งคุณชูเฮย์ตอบกลับว่า “คุณหมายถึงว่าถ้ามีใช่มั้ย?” แค่นี้สื่อก็ตีความไปได้หลายอย่าง ถึงขึ้นที่ว่า Sony จะไม่ทำ PS5 กันเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องของ PS4.5 นั้นข้อมูลจากหลายสำนักออกมาตรงกันว่า สิ่งที่ Sony จะอัพเกรดขึ้นนั้น หลักๆ คือเพื่อประสิทธิภาพให้เครื่องมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประมวลผลกราฟฟิคที่จะทำให้สามารถเล่นเกมความละเอียดได้สูงขึ้นจากเดิมได้เต็มที่คือ Full HD ไปเป็นระดับ 4K หรือ UHD รวมไปถึงตัวไดร์ฟสำหรับอ่านแผ่น Blu-ray ก็จะได้รับการอัพเกรดให้สามารถเล่นแผ่นภาพยนตร์ระดับ 4K ได้ด้วยเช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่า Sony จะประกาศเปิดตัวเจ้า PlayStation 4.5 นี้ในช่วงเดือนตุลาคม 2016 ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่แว่น PlayStation VR จะเริ่มออกวางจำหน่าย
จะว่าไปแล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Sony อัพเกรดเครื่องเล่นเกมคอนโซลของตัวเอง เพราะมีมาตั้งแต่สมัย PS3 แล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะการออกรุ่นที่อัพเกรดของพื้นที่หน่วยความจำภายในของเครื่อง ซึ่งที่จริงก็แค่เปลี่ยนขนาดฮาร์ดดิสก์ที่แถมมาพร้อมเครื่องให้ใหญ่ขึ้น ถ้าในส่วนของด้านสถาปัตย์ภายในแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงในแง่ของการลดขนาดบอร์ดให้เล็กลง ด้วยการรวมบรรดาชิปและแผงวงจรต่างๆ ให้กลายเป็นชิปเซตเดียวกัน ทำให้เครื่องใช้พลังงานที่น้อยลง
และเมื่อตัวเมนบอร์ดมีขนาดเล็กลง ก็นำไปสู่การออกเครื่องโฉมใหม่ที่เล็กและบางลงได้ อย่างใน PS3 ก็เคยมี PS3 Slim ออกมา แต่ในอดีตนั้นการเปลี่ยนโฉมคือการทำให้เครื่องเล็กลง ประหยัดพลังงาน (รวมไปถึงประหยัดต้นทุนการผลิต) เพื่อที่จะสามารถลดราคาขายของเครื่องในตลาดได้
ถ้าย้อนเวลากลับไปในวันที่ PS4 วางจำหน่ายครั้งแรกคือ 15 พฤศจิกายน 2556 อายุในตลาดนั้นเพียงแค่ 2 ปีนิดๆ เท่านั้น ปัจจุบันสามารถจำหน่ายทั่วโลกไปได้แล้วมากกว่า 35 ล้านเครื่อง ขุมพลังภายในเครื่องนั้น ตัว CPU ใช้เป็น AMD x86-64 Jaguar 1.6 GHz แบบ 8-core ส่วน RAM เป็น 8 GB GDDR5 + 256 DDR3 จะว่าไปแล้วสเปคขนาดนี้ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร และตามปกติแล้วการออกแบบเครื่องเล่นเกมคอนโซลแต่ละ Generation นั้นจะถูกวางรูปแบบของสถาปัตย์ภายในเอาไว้ประมาณ 8-10 ปี
สเปคของ PlayStation 4.5 ที่สื่อคาดการณ์กัน
- CPU: 8 Jaguar Cores at 2.1 GHz
- GPU: Improved AMD GCN, 36 CUs at 911 MHz
- Memory: 8 GB GDDR5, 218 GB/s
- 4K Image Output
แต่ต้องยอมรับว่าโลกของเทคโนโลยีในเวลานี้ ปรับเปลี่ยนกันรวดเร็วมาก รวมถึงเทรนด์ของสื่อบันเทิงต่างๆ ก็เติบโตไปสู่คุณภาพที่มากกว่า Full HD แล้ว เกมที่ภาพ 1080p และเฟรมเรต 60 fps เริ่มไม่เพียงพอสำหรับเกมในยุคต่อไปอีก 3-4 ปีไม่ได้แล้ว
แล้วทำไมไม่เป็น PlayStation 5 ไปเลย?
อย่างที่บอกไปตอนแรกว่า PS4 เพิ่งจะมีอายุในตลาดเพียงแค่ 2 ปีกว่าเท่านั้น ถือว่ายังน้อยมากสำหรับเครื่องเกมคอนโซล และยิ่งตอนนี้ Sony ถือเป็นอันดับ 1 ของตลาดเกมคอนโซลยุคปัจจุบัน ทิ้งห่าง Xbox One ของ Microsoft แบบเท่าตัว การจะเปลี่ยน generation ในเวลานี้จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำ การออกรุ่นอัพเกรดให้ดีกว่าเดิมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งที่เหมาะกว่า
ถ้าในตลาดอุปกรณ์เทคโนโลยีอื่น การออกรุ่นระดับอัพเกรดเพื่อขั้นกลาง Generation นั้นก็มีให้เห็นอยู่ ไม่ต้องที่ไหนไกล ก็ iPhone ของ Apple นั่นไง เราจะเห็นได้ว่า Apple ออกแบบให้ iPhone แต่ละรุ่นมีอายุอยู่ในตลาดประมาณ 2 ปี เราเห็นมีการออกรุ่นอัพเกรด มาแล้วถึง 3 ครั้ง คือ iPhone 4s, 5s และ 6s สาเหตุก็คือ ไม่ต้องการให้อายุของเครื่องรุ่นเก่าตกเร็วจนเกินไป แต่ก็ต้องการส่งรุ่นใหม่เข้ามาในตลาดเพื่อปรับตัวทุกๆ ปี
ตลาดเกมคอนโซลนั้นไม่จำเป็นต้องถี่เป็นรายปี ถ้า PS4 จะมีรุ่นขั้นกลางประกาศในช่วงปลายปีและขายตอนต้นปี 2560 ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะสมอยู่ รวมถึงการออกรุ่นขั้นกลางมาก็ไม่ได้เป็นการทำให้ PS4 เดิมกลายเป็นของที่คนไม่อยากได้ เพราะสิ่งที่เพิ่มมาก็ไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์ผู้เล่นทุกคน ทำให้ PS4 เดิมก็ยังคงไปต่อได้ ส่วนรุ่น 4.5 ก็มารองรับตลาดที่จะเกิดใหม่ในอีก 3-4 ปีข้างหน้าได้ด้วย
ที่สำคัญจะเปลี่ยน generation นั้น แค่อัพเสปคภายในให้แรงขึ้นนั้นไม่เพียงพอ จะต้องมีเรื่องของการสร้างนวัตกรรมใหม่เพิ่มเข้าไป ซึ่งตอนนี้ก็เร็วเกินไปที่ Sony จะทำให้เกิดขึ้นได้ในเร็วๆ นี้
Virtual Reality คือสาเหตุที่ PlayStation 4 ต้องแกร่งขึ้น!
กระแสของโลกตอนนี้ Virtual Reality หรือ VR คือสิ่งที่กำลังจะเข้ามาสู่ชีวิตของทุกคนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้แล้ว ยักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Google หรือ Facebook รวมไปถึงผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ต่างขยับตัวและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อถ่ายทอดประสบการเสมือนจริงแบบ VR ที่ผู้ชมจะถูกเข้าไปอยู่ในบรรยากาศจำลองอย่างสมจริง
ในด้านฝั่งโลกของเกมแล้ว Oculus Rift ตอนนี้ดูจะเป็นอุปกรณ์และแพลตฟอร์มที่พร้อมสำหรับ VR ในระดับสูงมากที่สุด ด้วยตัวฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก (สเปคของ PC ที่รองรับ) สำหรับ Sony แล้วถึงแม้ว่าตอนนี้ตลาดของคอนโซลตัวเองจะเป็นอันดับ 1 อยู่ แต่ให้นั่งนิ่งเฉยทำแค่เกมกราฟฟิคสวยๆ ออกมา โอกาสที่จะตกยุคในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ามีสิทธิจะเกิดขึ้นได้ PlayStation VR ถือเป็นการพัฒนาและผลักดันให้ออกมาในตลาดอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่ Sony จะทำได้ โดยต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของศักยภาพเครื่อง PlayStation 4 รองรับได้ไหว
ถ้าดูตามสเปคและความสามารถด้านการแสดงผลของ PlayStation VR แล้ว เรื่องความละเอียดของภาพนั้นยังด้อยกว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่นด้วยซ้ำ แต่นั่นคือสิ่งที่ Sony ต้องผลักออกมาในตลาดให้เร็วที่สุด สิ่งที่จะแก้คอขวดนี้ได้คือทำให้ PS4 มีประสิทธิภาพมากยิ่งกว่าเดิม เพื่อรองรับ VR ที่ดีกว่านี้ได้ในอนาคต
ถ้าหาก PS4.5 เกิดขึ้นจริง PS4 รุ่นปกติก็ยังคงมีอยู่ต่อไป และยังคงเป็นเครื่องหลักไปอีกพักใหญ่ เผลอๆ เราอาจจะได้เห็น PS4 Slim ในเวลาไล่เลี่ยกับ PS4.5 ออกก็ได้ เพราะถึงอย่างไร ตัวเกมที่มีในตลาดและที่จะออกมาในตลาดภายใน 1-2 ปีนี้ ยังคงอยู่พื้นฐานความแรงของ PS4 เดิม กว่าผู้พัฒนาจากค่ายต่างๆ จะดันตัวเองไปใช้ศักยภาพของ PS4.5 ได้แบบเต็มที่ คาดว่าจะต้องปรับตัวกันอีกอย่างน้อย 2-3 ปีขึ้นไปเป็นอย่างต่ำ เพราะต้องรอเรื่องเทคโนโลยี VR ให้นิ่งมากกว่านี้อีกนิด เมื่อถึงเวลานั้นก็คือจังหวะที่พร้อมแล้วสำหรับ PlayStation 5
แต่เชื่อได้เลยเมื่อ PlayStation VR ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยสมบูรณ์ เกมคอนโซลหลายๆ เกมในอดีตจะถูกเอามาทำใหม่ให้เป็นแบบ VR ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คุณจะได้ผจญภัยในเกม Uncharted เหมือนว่ากำลังกระโดดไต่หน้าผาอยู่ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศการขับรถที่สมจริงยิ่งกว่าเดิมใน Gran Turismo ภาคต่อไป
ความเห็นส่วนตัวเรื่องนี้ เชื่อว่า Sony น่าจะทำจริงๆ กับ PlayStation 4.5 ที่อัพเกรดสเปคเพิ่ม แต่จะชื่ออะไรนั้นค่อยมาลุ้นกันอีกที และถ้าเปิดตัวช่วงตุลาคมตามข่าวลือจริงๆ ก็น่าจะเริ่มขายอย่างเร็วประมาณกุมภาพันธ์ 2017 ส่วนใครที่คิดว่าจะรอยังไม่ซื้อ PS4 รอ 4.5 ก่อนดีมั้ย ก็คงแนะนำว่าถ้ามีเกมอยากเล่นในใจแล้วตอนนี้ ก็ซื้อเลยครับ เวลาอีกนานกว่าจะออก และถ้าไม่ได้แคร์กราฟฟิคระดับ 4K แล้วก็ลุยเลยดีกว่า
ข้อมูลอ้างอิง : IGN
