อีกหนึ่งอุปกรณ์สำหรับนักปั่นจักรยานยุคนี้ก็คือ ไมล์จักรยานที่มี GPS ในตัว เพื่อเอาไว้ใช้บอกข้อมูลเกี่ยวกับการปั่นทั้งความเร็ว, เส้นทาง ฯลฯ ในท้องตลาดมีออกมาหลายยี่ห้อหลายรุ่น แต่สำหรับ Speedforce นั้นแตกต่างจากไมล์รุ่นอื่นๆ ที่มีในท้องตลาด ทั้งเรื่องของการออกแบบและความสามารถในการใช้งาน
Speedforce : All-in-One Bicycle Computer
อย่างแรกที่สะดุดตามากๆ ก็คือมันถูกออกแบบให้ฝังตัวรวมเป็นชิ้นเดียวกันกับ สเตม (Stem) ที่เป็นชิ้นส่วนที่ใช้ติดตั้งแฮนด์จักรยานกับตัวเฟรม โดยจะมีหน้าจอแสดงผลแบบ RGB ขนาด 320 x 320 พิกเซล มีระบบ GPS สำหรับระบบตำแหน่ง และ Altimeter สำหรับวัดระดับความสูง สำหรับแหล่งพลังงานที่ใช้จะเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 1,700 mAh รองรับการใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมง, ที่ด้านหน้ามีไฟสำหรับส่องสว่างทาง รวมถึงยังป้องกันน้ำได้มาตรฐาน IPX6 และน้ำหนักรวมทั้งหมดอยู่ที่ 340 กรัม
ระบบสามารถเชื่อมต่อไร้สายมาตรฐาน ANT+ กับเซนเซอร์สำหรับปั่นจักรยานทั้งตัววัดความเร็วและวัดรอบขาในการปั่น (Speed & Cadence) และการทำงานจะแสดงผลข้อมูลต่างๆ ที่หน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็ว, ระยะทางในการปั่น, ระยะทางขึ้นเนิน, รอบขา, อัตราการเต้นของหัวใจ ฯลฯ ที่สำคัญมันยังมีระบบนำทางในกรณีที่เราตั้งเส้นทางในการปั่น โดยจะแจ้งเป็นลูกศรบอกและระยะทางแบบ Turn by Turn
การทำงานจะเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน (รองรับทั้ง iOS และ Android) โดยจะเป็นการเก็บข้อมูลสถิติมาไว้ในระบบ cloud และประมวลผลการปั่นในแต่ละทริปที่บันทึกเอาไว้ สามารถเชื่อมต่อและโอนถ่ายข้อมูลมาที่สมาร์ทโฟนได้แบบ real-time พร้อมทั้งยังมีระบบ Coaching คอยแจ้งสถิติและเตือนผู้ใช้ให้ปั่นเพิ่มลดความเร็วตามแผนการฝึกที่ต้องการได้
Speed force ออกแบบมา 2 รุ่นคือสำหรับจักรยานเสือหมอบ (Road Bike) และเสือภูเขา (Mountain Bike) ราคาตอนนี้เป็นการเปิดสั่งจองผ่าน Indiegogo ในราคา $179 หรือประมาณ 6,300 บาท โดยที่ในชุดจะมีแถมตัวเซนเซอร์วัดรอบขาและแบตเตอรี่เสริมมาให้ด้วย
ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า
ตอนแรกนั้น อ.ศุภเดชส่งข่าวของ SpeedX Leopard มาให้ผม ที่เป็นจักรยานเสือหมอบระดับโปร ทำการเปิดระดมทุนบน Kickstarter ที่ได้รับการตอบรับจากนักปั่นทั่วโลกอย่างท่วมท้น ที่สามารถระดมเงินไปได้มากกว่า 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เรียนตามตรงคือถ้าคนไม่ปั่นจักรยานมาเห็นราคาของมันก็คงบอกว่าจักรยานบ้าอะไรคันนึง 6-7 หมื่นแต่สำหรับนักปั่นเข้าเส้นแล้ว สเปคของ Leopard ถือว่าน่าสนใจด้วยเกรดของเฟรม, การออกแบบ และราคาที่ถือว่าไม่แพงมากสำหรับเฟรม OEM
แต่สำหรับผม นักปั่นผู้ไม่ยี่หระต่อเฟรมคาร์บอน (ฮา) และยึดมั่นในเฟรมอลูมิเนียม สิ่งที่ผมสนใจในตัว Leopard คือเจ้าสเตม Speed force ตัวนี้มากกว่า เพราะมันเป็นการเอานวัตกรรมที่นักปั่นอยากได้ในไมล์จักรยานมารวมเอาไว้ในอุปกรณ์ของรถแบบเรียบเนียนสวยงาม พอไปดูในรายละเอียดในเว็บจึงรู้ว่ามันขายแยกอยู่ใน Indiegogo และจากราคาที่เปิดมากับความสามารถ (ที่ระบุไว้แล้ว) เทียบกับไมล์ยี่ห้ออื่นในตลาด คุณต้องควักเงินอย่างต่ำมากกว่านี้ 2-3 เท่าเลยทีเดียว ติดอยู่อย่างเดียวว่ามันจะเริ่มส่งสินค้าเมื่อไหร่กัน (ในเว็บระบุเอาไว้ว่าเดือนมีนาคม 2016 ซึ่งล่วงเลยมาแล้วเรียบร้อย)
ข้อมูลจาก : SpeedX