การกลับมาเป็นครั้งที่ 3 บน Kickstarter ของ Pebble ผู้จุดกระแสนาฬิกา Smartwatch ครั้งนี้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ 2 รุ่นคือ Pebble 2 กับ Pebble Time 2 และมีเพิ่มของใหม่ Pebble Core อุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก ซึ่งทั้งหมดนี้มีฟีเจอร์ในเรื่องของการออกกำลังกายที่น่าสนใจใส่มาให้แบบเต็มที่
Pebble 2 ตัววัสดุยังคงใช้เป็นพลาสติกและสายแบบยาง หน้าจอขาวดำแบบอีอิงค์ ส่วน Pebble Time 2 ตัวเรือนใช้วัสดุเป็นสแตนเลสสตีลสวยงาม หน้าจอเป็นอีอิงค์แบบสีที่รุ่นนี้มีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 53% ทั้ง 2 รุ่นนี้มีสิ่งที่เพิ่มขึ้นมานั่นก็คือระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบสายที่ด้านหลังของตัวเรือนติดตั้งมาให้ด้วย เพื่อใช้งานในการเก็บข้อมูลการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง ใช้งานเป็น Tracker เพื่อนับก้าวเดิน และการหลับ โดยจะทำงานคู่กับแอพ Pebble Health ในสมาร์ทโฟน
การใช้งานพื้นฐานในเรื่องการแจ้งเตือนและแอพต่างๆ ก็ยังคงมีเหมือนเดิม ที่ตอนนี้มีแอพบน Pebble แล้วมากกว่า 13,000 แอพ ตัวเรือนกันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตร สามารถใส่วายน้ำได้สบาย มีไมโครโฟนติดตั้งมาให้ด้วย สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ในด้านความอึดไว้อยู่ โดยในรุ่น Pebble 2 ชาร์จ 1 ครั้งสามารถใช้ได้นาน 7 วัน ส่วนทางด้าน Pebble Time 2 สามารถใช้ได้นานถึง 10 วัน
Pebble เปิดราคานกตื่นเช้า Early Bird สั่งจองใน Kickstarter ตอนนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ตัว Pebble 2 มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ราคาเริ่มที่ $99 (ประมาณ 3,500 บาท) จากราคาเต็ม $129 เริ่มจัดส่งให้เดือนกันยายน 2016 และ Pebble Time 2 ราคาจอง $169 (ประมาณ 6,000 บาท) จากราคาเต็ม $199 เริ่มจัดส่งให้เดือนพฤศจิกายน 2016
ส่วนของเล่นใหม่ Pebble Core ก็น่าสนใจไม่น้อย ลักษณะจะเป็นอุปกรณ์พกพารูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ข้างในมี GPS สำหรับระบุพิกัด และเชื่อมต่อไร้สายผ่านทาง Wi-Fi และเครือข่าย 3G (ใส่ซิมได้) ความสามารถของมันก็คือพกเอาไว้ในเวลาที่วิ่ง มันสามารถใช้บันทึกเส้นทางที่เราวิ่ง, ความเร็ว, ระยะทาง ฯลฯ โดยที่เราไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนหรือใช้อุปกรณ์อื่นๆ และข้อมูลการวิ่งยังสามารถซิงค์ไปยังแอพชื่อดังต่างๆ ได้อาทิ Strava, MapMyRun, RunKeeper, Under Armour Records ฯลฯ
ในตัวของมันสามารถเสียบหูฟังเพื่อใช้ฟังเพลงที่โหลดลงมาเก็บไว้ได้ในความจุ 4GB และยังรองรับฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งผ่าน Spotify ได้ และยังรองรับการใช้งานเชื่อมต่อกับนาฬิกา Pebble เพื่อใช้เป็นหน้าจอแสดงข้อมูลระหว่างที่กำลังวิ่ง หรือใช้สั่งเปลี่ยนเพลงที่ฟังอยู่ได้
ราคาจองของ Pebble Core ตอนนี้อยู่ที่ $69 (ประมาณ 2,500 บาท) จากราคาเต็ม $99 พร้อมจัดส่งให้ในเดือนมกราคม 2017 นอกจากนี้ยังมีรุ่น Core for Hacker ที่จะมี SDK สำหรับให้ผู้ใช้เขียนโปรแกรมดัดแปลงเอาไปใช้งานในด้านอื่นๆ ที่ต้องการได้เองอีกด้วย
ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า
ทันทีที่ข่าวออกมา ผมก็วู่วามกด Back เจ้าตัว Pebble Time 2 ไปแบบไม่ใช้สมองคิดยับยั้งชั่งใจอะไรเลย (ฮา) การอัพเกรดของเวอร์ชั่น 2 นี้ทำให้ Pebble เสริมคมเขี้ยวความเป็น Fitness Tracker เข้าไป จะว่าไปแล้วดูน่าสนใจกว่ารายอื่นในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็น Fitbit หรือ Garmin ขึ้นมาทันที ในราคาที่เท่าๆ กัน และยิ่งเอาไปเทียบกับ Apple Watch หรือ Android Wear อื่นๆ แล้ว Pebble ใหม่นี้ราคาถูกกันกว่าเกือบครึ่งๆ เลยทีเดียว แต่ก็ต้องมาดูเรื่องของความแม่นยำในการเก็บข้อมูลและระบบ Health ของ Pebble จะทำออกมาได้ดีขนาดไหน
ได้แต่หวังว่ารอบนี้จะไม่มีดราม่าปล่อยรุ่นแปลกๆ เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างปีที่แล้ว ที่เปิดตัว Pebble Time ไปไม่กี่ 10 วัน ก็เปิดตัวรุ่น Time Steel ออกมา (คราวนี้ Time 2 เลยเป็นแต่แบบสแตนเลสสติลอย่างเดียวเลย) แถมตอนที่คนยังไม่ได้ของรุ่น Time ก็ดันมีแบบเรือนหน้าปัดกลม Time Round ออกมาอีก คนที่จองรุ่นก่อนเลยไม่พอใจอยากเปลี่ยนกันวุ่นวายไปหมด
