ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ Flagship Killer ไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะเจ้านี้มักจะเปิดตัวหลังคนอื่นอยู่เสมอแต่ทำสเป็คและราคาออกมาฆ่าคนอื่นตายเรียบ ในปีที่แล้วอาจจะดูหงอยๆไปหน่อยกับ OnePlus 2 แต่ OnePlus 3 นั้นไม่ได้มาเล่นๆนะ สเป็คของมันก็จัดว่าโหดเลยทีเดียว
- OnePlus 3 มาพร้อมบอดี้ Anodize aluminum สุดแกร่ง หรูหราและแข็งแรง
- หน้าจอ Optic AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080P ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 4
- รัน Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย Oxygen OS
- CPU Snapdragon 820 Quad-Core 2.15 GHz
- GPU Adreno 530
- Ram 6GB LPDDR4
- Rom 64GB UFS 2.0
- กล้องหลัง 16 MP f2.0 เซนเซอร์ Sony IMX298 ขนาด1.12 µm , OIS, EIS, PDAF, Auto-HDR ถ่ายวีดีโอ 4K ที่ 30 FPS , Full HD ที่ 120 fps
- กล้องหน้า 8 MP f2.0 เซนเซอร์ Sony IMX179 ขนาด 1.12 µm , EIS
- พอร์ต USB Type-C รองรับ Dash Charge 5V 4A ชาร์จ 63% ภายใน 30 นาที
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม
- ลำโพงระบบเสียง Dirac HD Sound
- 4G LTE Cat6, Bluetooth 4.2, NFC
- แบตเตอรี่ 3,000 mAh
- มี 2 สีคือ สีเทาดำกราไฟต์ และสีทองนวล
เทคโนโลยี Dash Charge จะรองรับกับสายและหม้อแปลงของ OnePlus 3 ที่ให้มาเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับ USB Type-C ทั่วๆไปได้ เนื่องจาก Dash Charge จะมีระบบควบคุมกระแสไฟฟ้าและระบายความร้อนอยู่ตลอดเวลา
OnePlus ชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพด้วยกันสั่นแบบ OIS และ EIS โฟกัสแบบ PDAF รองรับการถ่าย Raw File และมีเทคโนโลยี Dynamic De-noise เป็นการถ่ายภาพหลายๆช็อตเพื่อเอามารวมกันเป็นภาพเดียวเพื่อลด Noise
โดยราคาเปิดตัวอยู่ที่ 399 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 14,000 บาทเท่านั้นครับ
ความเห็นทีมข่าวล้ำหน้า
ตั้งแต่ที่ทำข่าว OnePlus มา ผมว่าตัวนี้แหละครับคือ OnePlus ที่สมบูรณ์น่าใช้งานที่สุดแล้ว ในราคา 14,000 บาท แต่ได้สเป็คระดับนี้ยังไงก็ยังถือว่าคุ้มมากๆอยู่ดี สามารถสู้กับแบรนด์อินเตอร์ในราคา 20,000+ ได้สบายๆ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก oneplus