ช่วงเวลาเพียงแค่ 1 อาทิตย์ของการเปิดตัว Pokemon GO เกมที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง Nintendo และ Niantic Labs ได้กลายเป็นปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ของโลกไปอย่างน่าอัศจรรย์ ทำลายทุกสถิติของโลกออนไลน์แบบถล่มทลายด้วยการมียอดดาวน์โหลดแอพมากกว่า 10 ล้านครั้งในสัปดาห์แรก ทั้งๆ ที่เปิดให้บริการเพียงแค่ 3 ประเทศเท่านั้น (ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา) ตัวเกมมีจำนวนผู้ใช้งานในแต่ละวันมากกว่า Twitter, รวมเวลาการใช้งานของผู้ใช้ในแต่ละวันแซงหน้าแอพดังๆ อย่าง Facebook, Snapchat, Instagram และ WhatsApp ล่าสุดขึ้นแท่นอันดับ 1 แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่มีผู้ใช้งานต่อวันมากที่สุดของอเมริกาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความสำเร็จของ Pokemon GO นั้นต้องบอกว่าไม่ได้เกิดขึ้นมาเพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะความมุ่งมั่นของ John Hanke ซีอีโอของ Niantic Labs ผู้พัฒนาเกมนี้ ที่สั่งสมประสบการณ์ ตั้งมั่นเป้าหมายนี้เอาไว้มายาวนานกว่า 20 ปี
Niantic Labs : จากความมุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่จบสิ้น
ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน ในปี 1996 ตอนนั้น John Hanke ยังเป็นนักศึกษา เขาได้ร่วมสร้างเกมบน PC ที่ชื่อว่า “Meridian 59” ที่ถือว่าเป็นเกมแนว แนว MMORPG (massively multiplayer online Role Playing Game) เกมแรกๆ ของโลก หลังจากที่เกมได้รับความนิยมเขาก็ได้ขายเกมนี้ให้กับบริษัท 3DO เพื่อออกตามความฝันที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม นั่นคือการ “สร้างแผนที่โลกดิจิทัล”
มาในปี 2000 John Hanke ได้เปิดตัวโปรแกรม “Keyhole” ที่สามารถเชื่อมข้อมูลบนแผนที่เข้ากับภาพถ่ายทางอากาศได้ ถือเป็นระบบแผนที่ออนไลน์ที่เชื่อมต่อข้อมูลตำแหน่ง GPS กับภาพถ่ายทางอากาศแบบ 3 มิติได้เป็นโปรแกรมแรกของโลก
และด้วยความสุดยอดในผลงานของเขา ปี 2004 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google ก็ได้เข้าซื้อกิจการ Keyhole จากนั้น John ก็ได้ช่วยพัฒนา Keyhole ให้กลายมาเป็นโปรแกรมแผนที่ 3 มิติที่เราคุ้นชื่อกันดีอย่าง “Google Earth” และเมื่อมาถึงจุดนี้เขาก็ได้เริ่มคิดที่จะสร้างสิ่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมอีกครั้ง คือ เกมที่อ้างอิงกับข้อมูลพิกัด GPS
John ทำงานเป็นหัวหน้าของทีม Google Geo ตั้งแต่ปี 2004 ถึง 2010 มีหน้าที่สร้างผลิตภัณฑ์ที่สำคัญอย่างระบบแผนที่ Google Maps และระบบภาพถ่ายประกอบแผนที่ Google Street View และในระหว่างที่เขาทำงานอยู่กับ Google นั้น ก็ได้รวบรวมลูกทีมที่ต่อมาคือกำลังสำคัญในการสร้างเกม Pokémon Go ขึ้นมา
ชื่อของ Niantic Labs มาจากอะไร?
ในปี 2010 John ได้ก่อตั้ง Niantic Labs ขึ้นมาในรูปแบบของบริษัทสตาร์ทอัพที่รับเงินทุนจาก Google เพื่อสร้าง “เกม” ซ้อนขึ้นมาบนระบบแผนที่ John ได้อธิบายความหมายชื่อของ Niantic ว่า เป็นชื่อของเรือล่าวาฬที่ท่องสำรวจในสมัยยุคตื่นทองเมื่อปี 1849 และเรือลำนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเมืองซานฟรานซิสโกขึ้นมา เมื่อมาเทียบกับปัจจุบันกับไอเดียการทำงาน ที่ให้คุณได้สำรวจและรู้จักโลกใบนี้ หลายๆ ที่นั้นสุดยอดมากแต่คุณเองอาจจะไม่รู้ตัวทั้งๆ ที่กำลังยืนเหยียบมันอยู่ก็ได้
และในปี 2012 John และ Niantic Labs ก็ได้ให้กำเนิดเกมออนไลน์ที่อ้างอิงจากตำแหน่งแผนที่จริงขึ้นมาเป็นเกมแรก นั่นคือ “ingress” ที่ตัวเกมมีเหตุการณ์และเนื้อหาทับซ้อนบนแผนที่โลกของความเป็นจริง รูปแบบของเกมเกิดจากแรงบันดาลใจที่เขาฝันกลางวันระหว่างที่เดินทางจากบ้านไปทำงานที่ Google ว่า เขาสามารถจะสร้างเกมเจ๋งๆ ขึ้นมาจากข้อมูลตำแหน่งพิกัดแผนที่ๆ มีอยู่ เขาเห็นการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่แพร่หลายอย่างรวดเร็ว เขาจึงคิดว่านี่ล่ะ ถึงเวลาแล้วที่จะมีเกมผจญภัยที่สร้างจำลองขึ้นมาจากโลกจริงๆ เสียที! และตัวเกม ingress ค่อยเติบโตและกระจายไปทั่วโลก มีผู้เล่นจำนวนมากสร้างจุดตำแหน่งสำคัญเพื่อใช้เล่นในเกมขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
infographic สรุปความสำเร็จของเกม ingress ตลอด 3 ปีที่พัฒนามา
จากเรื่องเล่นขำๆ กลายมาเป็นไอเดียสร้างเกมสุดอัศจรรย์!
ใครจะนึกว่าจากมุกตลกในวัน April’s Fool เมื่อปี 2014 ที่ Google และ Pokémon Company ร่วมมือกัน ให้ผู้ใช้งาน Google Maps สามารถจับโปเกม่อนที่ปรากฎอยู่ในแผนที่ได้ เหตุการณ์นี้กลายเป็นไวรัลที่ผู้คนทั่วโลกสนใจและสนุกกับมันเป็นจำนวนมาก สิ่งนี้เองทำให้ John มีไอเดียว่า “มันน่าจะเอามาทำให้เป็นเกมแบบจริงๆ จังๆ”
เขาเริ่มพัฒนาตัวเกม Pokémon Go โดยใช้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ที่มีอยู่ในมืออยู่แล้ว นั่นคือการเอาบรรดาจุดสำคัญต่างๆ ในเกม ingress ที่มีผู้เล่นรายงานขึ้นมาจากสถานที่จริงตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีครึ่ง มาใช้เป็น Pokéstops ตำแหน่งแจกไอเท็มในเกม และ Gym ที่จะเป็นฐานหลักของแต่ละทีมส่งโปเกม่อนมาสู้และยึดเป็นฐานของตนเอง งานนี้ตัวเกม ingress จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การพัฒนาเกม Pokémon Go มีประสิทธิภาพและช่วยให้ทีมงานซ้อนเอาโลกของโปเกม่อนเข้ากับโลกจริงได้อย่างลงตัวที่สุด
ทาง Niantic Labs ได้ประกาศเปิดตัวเกม Pokémon Go ในช่วงปลายปี 2015 ทำได้รับเงินทุนเพิ่มจาก Google, Nintendo, the Pokémon Company และนักลงทุนอื่นๆ รวมแล้วกว่า 25 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ และเพิ่มจำนวนทีมงานพัฒนาอีกมากกว่า 40 คนช่วยกันสร้างเกมให้สามารถเปิดตัวได้ทันภายในปี 2016
ตัวเกมได้เริ่มเปิดให้ทดสอบเล่นในระยะ close beta ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งในวันที่ 6 กรกฎาคม 2016 ทาง Niantic Labs ได้เริ่มเปิดให้บริการเกม Pokémon Go ใน 3 ประเทศแรกคือ ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และ สหรัฐอเมริกา จากนั้นกระแส Pokemon GO Fever ก็ระบาดไปทั่วโลก ผลของความสำเร็จครั้งนี้ผลักดันให้มูลค่าหุ้นของ Nintendo เพิ่มขึ้นถึง 33% เป็นมูลค่าที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ของบริษัท และตัวแอพก็สามารถสร้างรายได้จากระบบ in-app purchases ถึงวันละ 2 ล้านเหรียญดอลล่าร์!!
การ Level up ทีละขั้น นำพามาสู่ความสำเร็จ!
ความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ของเกม Pokemon GO นั้น ถ้าเทียบกับเกม RPG แล้ว นี่คือผลของการพัฒนาก้าวข้ามผ่านทีละ Level ของ John Hanke ที่สร้างสรรค์และเพิ่มศักยภาพใหม่ๆ ให้กับตัวเอง, สมาชิกที่เพิ่มขึ้นมา พร้อมไอเท็มใหม่ๆ ที่มาประกอบเป็นปัจจัยช่วยให้เกิดผลสำเร็จในวันนี้ มองย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เขาไม่มีทางรู้หรอกว่าการเดินทางจะออกมาเป็นรูปแบบนี้ แต่สิ่งที่เขาทำก็คือ มุ่งมั่นกับปัจุบันแล้วพัฒนาตัวเองก้าวไปข้างหน้าทีละขั้น
ทุก Level ที่ผ่าน จะเสริมสร้างพลังให้กับตัวคุณ ทีมของคุณ รวมไปถึงโชคของคุณ และการชนะในหลายๆ Level ก็คือสิ่งที่จะนำพาให้คุณชนะในเกมได้
ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า
เกม Pokemon GO ตอนนี้ถือว่ายังเป็นแค่จุดเริ่มต้นก้าวแรกเท่านั้น ใครที่เล่นเกมโปเกม่อนมาตลอดจะรู้ได้เลยว่า สิ่งที่ Pokemon GO เริ่มเปิดตัวมาตอนนี้ คิดเป็นสัดส่วนแล้วน่าจะประมาณแค่ 25-30% ของเกมทั้งหมด สายพันธุ์ของโปเกมอนตอนนี้มีเพียงแค่ 250 ชนิดจาก generation แรก ที่ทั้งหมดตอนนี้มีแล้วถึง 6 Generation 721 สายพันธุ์ รวมถึงระบบของเกมอย่างการ trading โปเกมอนกับเพื่อน, การ evolution รูปแบบ ฯลฯ
เชื่อได้เลยว่าตัวเกมจะยังมีการพัฒนาต่อไปได้อีกไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี ส่วนตัวผมมองตัวเกมแล้วยังไม่เห็นทางตันของระบบเกม อีกทั้งทางฝั่งของ Nintendo เองก็ยังมีเกม Pokemon ภาคใหม่ในเครื่องคอนโซลของตัวเองอย่าง Pokemon Sun & Moon กำหนดวางจำหน่ายช่วงปลายปี 2016 นี้ และจะมีเครื่องเกมคอนโซล NX รอเปิดตัวในปี 2017
Pokemon GO เป็นส่วนผสมของทีมงานพัฒนาระดับชั้นนำของโลก กับตัวเกมและคาแรคเตอร์ที่โด่งดังต่อเนื่องมายาวนานกว่า 20 ปี จึงไม่น่าแปลกใจเลยสักนิดที่ Pokemon GO จะดังระเบิดได้ขนาดนี้
ข้อมูลจาก : Roger James Hamilton