Bitcoin เป็นหน่วยเงินดิจิตอลที่คิดค้นขึ้นมาเมื่อปี 2008 และได้รับความนิยมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องด้วยเหตุผลเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยผู้ใช้บิตคอยน์จะโอนเงินให้กันได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านผู้ให้บริการใดๆ และยังไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนผู้ทำธุรกรรมอีกด้วย (ขอแค่มีรหัสกระเป๋าเงินก็เพียงพอ) และมื่อผู้ใช้ต้องการเปลี่ยนเงินบิตคอยน์จริง ก็จะมีผู้ให้บริการในการแลกค่าเงิน เหมือนกับร้านแลกเงินทั่วไปนั่นเอง
และปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเว็บไซต์ Bitfinex เว็บแลกเปลี่ยนค่าเงิน Bitcoin ชื่อดัง ถูกแฮ็กเข้ามาขโมยบิตคอยน์ออกไป แม้ในเบื้องต้นทางเว็บ Bitfinex จะไม่ได้ให้รายละเอียดว่ามีบิตคอยน์ถูกขโมยออกไปได้เท่าไหร่ แต่มีผู้ใช้ในเว็บ Reddit ออกมาให้ข้อมูลว่าบิตคอยน์ที่ถูกขโมยไปนั้นมีทั้งสิ้น 119,756 หรือเทียบเป็นเงินไทยแล้วมีมูลค่าสูงถึง 2,600 ล้านบาทเลยทีเดียว
ซึ่งหลังจากข่าวนี้เผยแพร่ออกมา ก็ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนของบิตคอยน์ร่วงลงมากว่า 20% จากราว 22,700 บาทต่อ 1 BTC เหลือเพียงราว 19,000 บาทต่อ 1 BTC เท่านั้น
ในเบื้องต้นทาง Bitfinex ยังไม่ได้เผยแพร่รายละเอียดว่าการแฮ็กเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ทาง Bitfinex ได้ให้ความเห็นในเว็บไซต์ Reddit ว่าโดยปกติแล้วระบบจะมีการจำกัดจำนวนบิตคอยน์ที่ถอนออกจากระบบได้เอาไว้ ซึ่งตอนนี้ทางทีมงานกำลังตรวจสอบว่าแฮ็กเกอร์ใช้วิธีใดในการข้ามการตรวจสอบนี้ และทางด้าน BitGo ซึ่งซอฟต์แวร์ที่ Bitfinex ใช้ในการรักษาความปลอดข้อมูล ก็ได้ออกมาทวีตกล่าวว่าไม่พบช่องโหว่ใน BitGo แต่อย่างใด
As we directly notified our customers earlier today, our investigation has found no evidence of a breach to any BitGo servers.
— BitGo (@BitGo) August 2, 2016
ในตอนนี้ทาง Bitfinex ได้ดำเนินการติดต่อไปยังตำรวจและหน่วยงานด้านกฎหมายอื่นๆ แล้ว และกำลังตรวจสอบว่าบริษัทจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายเหมือนอย่างตอนที่ Mt.Gox ถูกแฮ็กหรือไม่
ความเห็นของเรา
ในปัจจุบันนั้นบิตคอยน์มีมูลค่าแทบไม่ต่างกับทองคำครับ อีกทั้งความเป็นส่วนตัวของมันทำให้มันถูกใช้อย่างกว้างขวางทั้งธุรกิจบนดินและใต้ดิน (เช่นบรรดาแรนซัมแวร์ ที่ให้จ่ายเงินผ่านบิตคอยน์ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ) ดังนั้นแล้วบิตคอยน์จึงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของเหล่าแฮ็กเกอร์ครับ
สำหรับใครก็ตามที่ใช้งานบิตคอยน์อยู่ การแฮ็กครั้งนี้ถือเป็นอีกเครื่องเตือนใจว่าเราควรใช้งานกระเป๋าเงินออฟไลน์ (Offline Wallet) หรือการเก็บบิตคอยน์ไว้ในกระเป๋าเงินที่เราสร้างขึ้นเอง แทนที่จะใช้กระเป๋าเงินจากเว็บแลกเปลี่ยนออนไลน์ครับ
ที่มา – TechCrunch