หลังจากที่ LG ประกาศวันเปิดตัว LG V20 มาได้สักพัก และข่าวลือต่างๆ ของตัวเครื่องก็ออกมาให้อ่านกันเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดทาง LG ก็ได้ทำการประกาศเปิดตัวมือถือพรีเมี่ยม LG V20 อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย
LG V20 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นพรีเมี่ยมของทาง LG ซึ่งเป็นรุ่นต่อยอดความสำเร็จจาก LG V10 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว โดย LG V20 มาพร้อมสเป็คดังนี้
- ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 820 Processor
- ตัวเครื่องเป็นโลหะถึงผิว (ไม่ใช่โลหะเคลือบพลาสติกแบบ G5)
- หน้าจอหลักขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560 x 1440) พาเนล IPS Quantum Display
- หน้าจอรองพาเนลความละเอียด 160 x 1040 พาเนล IPS Quantum Display
- แรม 4GB LPDDR4
- พื้นที่เก็บข้อมูล 64GB รองรับ microSD สูงสุด 2TB
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9
- กล้องหลังตัวแรกความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูปรับแสง f/1.8 มุมภาพปกติ มี OIS และกล้องหลังตัวที่สองความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.4 เป็นเลนส์มุมกว้าง
- แบตเตอรี่ถอดได้ ความจุ 3200 mAh รองรับ QuickCharge 3.0
- เซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือ
ระบบโฟกัสของกล้องใน LG V20 จัดเต็มทั้งระบบโฟกัสด้วยเลเซอร์ และระบบโฟกัสแบบ Phase Detection ที่มีใช้ในกล้องดิจิตอล ซึ่งตัวเครื่องจะเลือกระบบโฟกัสให้เองตามสถานการ จากนั้นจะใช้ระบบ Contrast Detection เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถโฟกัสภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น ในด้านการถ่ายวิดีโอ LG V20 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Steady Record 2.0 ที่ช่วยลดการสั่นไหวระหว่างการถ่ายวิดีโอ และช่วยเพิ่มความคมชัดให้วิดีโอได้ด้วย
นอกจากจุดเด่นเรื่องกล้องแล้ว LG V20 ยังมีจุดเด่นในเรื่องของเสียงอีกด้วย โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับ 32-bit Hi-Fi Quad DAC จาก ESS ซึ่งทาง LG คุยว่าให้เสียงชัดเจนเหมือนฟังการแสดงสด ในด้านการอัดเสียงก็รองรับการอัดเสียงระดับ HD อีกทั้งมี Studio Mode ที่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการตั้งค่าการอัดเสียงได้ด้วยตัวเอง
ทาง LG ยังไม่ได้ประกาศราคาขายสำหรับ LG V20 แต่คาดว่าน่าจะเปิดตัวมาในราคาใกล้เคียงกับตอนที่ V10 เปิดตัว นั่นคือราวๆ $700 หรือประมาณ 24,000 บาท โดยจะเริ่มขายภายในเดือนนี้ที่เกาหลีใต้เป็นประเทศแรก และมีให้เลือกด้วยกันสามสี คือ Titan, Silver, และ Pink
LG V20 ไม่มีระบบ Module แบบของ LG G5 แต่อย่างใด