OSMO Mobile ไม้กันสั่นเวอร์ชั่นมือถือ

งานนี้ต้องเรียกว่าพี่ใหญ่มาลุยเอง เพราะก่อนหน้านี้มีอุปกรณ์แนว gimbal, stabilizer หรือไม้กันสั่นที่ช่วยทำให้การถ่ายวีดีโอดูนิ่งเนียนตาขึ้น มักเป็นแบรนด์ที่ฟังดูแล้วจีนจ๋าๆ อย่างเช่น Zhiyun, Feiyu แต่คราวนี้ DJI ที่จัดว่าเป็นแบรนด์แถวหน้าได้ลงมาลุยตลาดนี้เองกับ OSMO Mobile

เมื่อไม่กี่วันก่อนทาง DJI ได้เปิดตัว OSMO+ ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงโดยมีจุดเด่นเรื่องการซูม แต่ถ้านึกไม่ออกว่า OSMO มันดีกว่าการถือกล้องถ่ายยังไง ผมมีตัวอย่างที่ผมเคยถ่ายไว้ด้วย OSMO รุ่นแรกที่เห็นได้ชัดถึงความนิ่งเนียน

แต่เพราะการมาของ facebook live ทำให้ผู้ใช้ทั้งไทยและเทศต่างพากันเรียกร้องให้ DJI เพิ่มคุณบัติด้านการ live ซึ่งตอนนี้ก็มีให้ใช้แล้วบน OSMO …แต่นั่นก็อาจไม่สะดวกพอสำหรับบางคนทำให้ DJI แตกไลน์สินค้าเปิดตัว OSMO Mobile ซึ่งเอาไว้ต่อกับมือถือโดยตรง ไม่ต้องโอนไฟล์ไปมาระหว่างตัวกล้องแบบรุ่นก่อน

Screen Shot 2016-09-02 at 00.20.44

OSMO Mobile ก็ไม่ต่างจาก stabilizer for mobile รุ่นอื่นตรงที่อิงขนาดมือถือจาก iPhone เป็นหลัก โดยรองรับมือถือขนาดและน้ำหนักที่ใกล้เคียง iPhone 6s ไปจนถึง iPhone 6s Plus และแม้ว่าจะมีฟีเจอร์การใช้งานคล้ายกับ OSMO รุ่นปรกติ แต่ไม่สามารถสลับถอดเฉพาะหัว gimbal มาใช้กับรุ่นเก่าได้ เพราะเป็นรุ่นที่ออกแบบมาทำงานกับมือถือโดยเฉพาะ

i5-ce238585a1c7c7d9b1dd98991dc5bf2f_90

ช่องแจ็ค 3.5 มม. มีไว้เพื่อเสียบชาร์จและใช้อัพเดทเฟิร์มแวร์เท่านั้น ไม่สามารถต่อไมค์ได้เหมือนรุ่นปรกติ แต่แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 4.5 ชั่วโมง ในขณะที่ OSMO รุ่นปรกติใช้งานได้ราวๆ 70 นาทีเท่านั้น

Screen Shot 2016-09-02 at 00.26.15

ตัวแอพของ DJI เองก็สามารถทำ live stream ได้ด้วย และที่เด็ดกว่านั้นก็คือระบบติดตามวัตถุหรือที่เรียกกว่า ActiveTrack

Screen Shot 2016-09-02 at 00.27.25

ปรกติแล้วไม้ selfie หรือ stabilizer จะไม่มีโหมดติดตามวัตถุ แต่อาจมีในรุ่นใหม่ๆ เช่น Zhiyun Smooth-II แต่นั่นก็เป็นการตรวจจับใบหน้าเท่านั้น แต่สำหรับ OSMO Mobile ล้ำไปอีกขั้นด้วยการลากนิ้วบนหน้าจอเพื่อเลือกวัตถุที่ต้องการติดตาม หลังจากนั้น OSMO Mobile จะทำการหมุนกล้องตามการเคลื่อนไหวของวัตถุตลอดเวลา

Screen Shot 2016-09-02 at 00.29.32

และระบบกันสั่นของ OSMO Mobile ทำให้เราสามารถลาก shutter speed ได้ง่ายขึ้น ต่างจากการถือเพียวๆ ที่ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเบลอ ส่วนจุดเด่นอีกอย่างคือระบบ Auto Panorama ต้องรอการอัพเดท software ในอนาคต

สนนราคาค่าตัว OSMO Mobile อยู่ที่ 359 usd ฟรีค่าส่ง แปลงเป็นเงินไทยก็ราวๆ 12,500 บาทเท่านั้น …โอ้ววววว

ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า

IMG_0293_LUCiD-1200x565

ผมเป็นคนที่บ้าคลั่งในการถ่ายวีดีโอด้วยมือถือมากๆ เรียกได้ว่าจัดเต็มอุปกรณ์เสริมรวมค่าตัวก็ร่วมๆ  30,000 บาท …ยังไม่นับค่า iPhone 6s แม้ว่ามันจะทำให้ผมเปรมฤทัยมากๆ กับ Zhiyun Smooth-II แต่ก็พบว่ายังไงมันก็มีจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้คิดถึง OSMO Mobile

อย่างแรกก็คือราคาที่ใกล้เคียงกัน เพราะ stabilizer for mobile ที่คุณภาพดีหน่อยก็ราคาราวๆ 12,000 บาททั้งนั้น แต่แบรนด์จีนมักต้องใช้ตัวถ่วงน้ำหนักประกอบเพิ่มในกรณีที่มือถือมีน้ำหนักมากกว่า iPhone 6s รวมถึง software ที่ยังขาดๆ เกินๆ นิดๆ หน่อยๆ

การที่ Smooth-II มีขนาดเล็กพกพาง่าย ก็มีผลเสียด้าน ergonomic ที่ด้อยกว่า OSMO Mobile เพราะมันไม่กระชับมือเท่าที่ควร และที่ DJI เด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัดก็คือเรื่องของอุปกรณ์เสริมที่สามารถใช้ร่วมกันของ OSMO รุ่นปรกติได้

สรุปก็คือ ถ้ายังไม่มี stabilizer ติดตัวและมองหาแบบดีๆ สักอัน ผมว่า OSMO Mobile ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่น่าสนใจเลยล่ะ

 

อดีตโปรแกรมเมอร์ที่ออกมาเรียนรู้โลกกว้าง อยากช่วยเหลือผู้คน ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย บอกเล่าในสิ่งที่ตัวเองรู้ และอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมน่าอยู่