ระบบขนส่งสาธารณะในซานฟรานซิสโก MUNI (San Francisco Municipal Railway) ซึ่งดำเนินงานโดย SFMTA (San Francisco Municipal Transportation Agency) ถูกโจมตีโดยแรนซัมแวร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
โฆษกของ SFMTA ได้ออกมาแถลงว่าระบบถูกโจมตีจริง และในขณะนี้ทางหน่วยงานกำลังสืบสวนปัญหาและหาทางแก้ไข โดยส่วนที่ถูกโจมตีนั้นเป็นส่วนของระบบอีเมลของ SFMTA (ไม่ระบุว่ามีระบบส่วนอื่นที่ถูกโจมตีอีกหรือไม่) ส่วนระบบการเดินรถนั้นยังคงทำงานเป็นปกติ ทั้งนี้ในขั้นต้นทาง SFMTA จะเปิดให้ประชาชนสามารถใช้งานระบบ MUNI ได้ฟรีเป็นการชั่วคราว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้ใช้
ทั้งนี้ที่ตู้ขายตั๋วนั้นขึ้นป้ายปิดบริการ (Out of Service) และที่หน้าจอมีขึ้นข้อความว่า “You Hacked, ALL Data Encrypted. Contact For Key(cryptom27@yandex.com)ID:681 ,Enter.”
ทางเว็บไซต์ The Verge ได้ติดต่อไปยังแฮ็กเกอร์ด้วยอีเมลที่ทิ้งเอาไว้ และได้รับการยืนยันว่าระบบถูกแฮ็กจริง โดยทางแฮ็กเกอร์ระบุว่ามีคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ในระบบของ MUNI กว่า 2,000 ตัวที่ถูกเข้ารหัสอยู่ในตอนนี้
แม้ว่าการโจมตีครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถ แต่ก็อาจจะส่งผลให้ MUNI ไม่สามารถจ่ายเงินเดือนของเดือนนี้ให้กับพนักงานได้
ที่มา – Motherboard, The Verge, CBS San Francisco
ความเห็นของเรา
ระบบ MUNI ในซานฟรานซิสโกนั้นถือได้ว่าเป็นระบบขนส่งสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในแคลิฟอเนีย (รองจากระบบ Metro ของลอสแองเจลีส) ซึ่งประกอบไปด้วยการขนส่งระบบราง ทั้งในส่วนของรถไฟฟ้า รถราง รถบัส และรถบัสไฟฟ้า ซึ่งแต่ละวันมีผู้ใช้บริการกว่า 650,000 คน ซึ่งการที่ระบบถูกโจมตีแบบนี้ย่อมส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างแน่นอน แม้ในขั้นต้นทาง SFMTA จะเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ฟรี แต่ทาง MUNI ก็น่าจะเสียหายหนักในระดับหนึ่ง เนื่องจากตัวระบบ MUNI เองนั้นมีค่าปฏิบัติการต่อไมล์แพงที่สุดในอเมริกา
ย้อนไปเมื่อเดือนกันยายน เคยมีการพบการโจมตีโดยแรนซัมแวร์จากฝีมือแฮ็กเกอร์ชื่อเดียวกันมาก่อนแล้ว และพบร่องรอยของแรนซัมแวร์ที่ชื่อ “Mamba”