เช้าวันนี้ (23 มกราคม 2560) ทาง Samsung ได้จัดงานแถลงข่าวเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy Note7 ที่ในปีที่แล้วหลังจากเริ่มวางจำหน่ายไปก็พบปัญหาไฟลุกไหม้จนต้องทำการเรียกคืนเครื่องที่จำหน่ายไปกลับ แล้วเปลี่ยนแบตเตอรี่จากผู้ผลิตอื่นในการผลิตล็อตต่อมา แต่ปรากฎว่าก็ยังเกิดปัญหาลุกไหม้ขึ้นอีก จนทาง Samsung ตัดสินใจสั่งเก็บสินค้าที่ผลิตและวางจำหน่ายทั้งหมดกลับและยกเลิกการขายสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไป
และตั้งแต่เกิดปัญหาครั้งนั้น ทาง Samsung ก็เริ่มกระบวนการเพื่อหาสาเหตุของปัญหาครั้งนี้โดยใช้ทั้งทีมงานของทาง Samsung เอง และร่วมมือกับองค์กรอิสระในธุรกิจอุตสาหกรรมอีก 3 รายด้วยกันคือ ยูแอล (UL), เอ็กซ์โพเนนท์ (Exponent) และ ทียูวี ไรน์แลนด์ (TUV Rheinland) เพื่อร่วมกันตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นกลาง
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นายดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคม ของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ได้กล่าวขออภัยอย่างจริงใจและแสดงความขอบคุณต่อลูกค้า Galaxy Note 7 รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่ายพันธมิตรทั้งที่เป็นผู้ค้าปลีกและตัวแทนจำหน่าย ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นๆ ที่มีความอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นและคอยให้การสนับสนุนเสมอมา
สำหรับกระบวนการในการตรวจสอบปัญหาครั้งนี้ มุ่งเป้าเพื่อหาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Galaxy Note 7 โดยทำการตรวจสอบตั้งแต่ในส่วนของฮาร์ดแวร์, ซอฟท์แวร์, กระบวนการประกอบเครื่อง, การทดสอบเพื่อรับประกันคุณภาพ (QC) ไปจนถึงระบบการขนส่งสินค้า ในการตรวจสอบนี้ Samsung ได้ทำในศูนย์ทดสอบขนาดใหญ่ ใช้ทีมวิจัยและวิศวกรของซัมซุงมากกว่า 700 คน เพื่อทดสอบจำลองสถานการณ์ต่างๆ กับเครื่อง Galxy Note 7 กว่า 200,000 เครื่อง และแบตเตอรี่อีกกว่า 30,000 ก้อน
ผลจากการทดสอบของทางซัมซุง และองค์กรอิสระทั้ง 3 ที่เข้าร่วมตรวจสอบนี้ได้ข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาการลุกไหม้ที่เกิดขึ้นใน Galaxy Note7 สาเหตุเกิดจากแบตเตอรี่
การทดสอบนั้นได้แบ่งแบตเตอรี่ออกเป็น 2 ชุดด้วยกันคือ Battery A ที่เป็นแบตเตอรี่ในเครื่องผลิตล็อตแรกและเริ่มวางขายในตลาด (มีประมาณ 1.4 ล้านเครื่อง) ส่วนอีกชุดคือ Battery B จะเป็นแบตเตอรี่ที่ผลิตมาจากผู้ผลิตรายใหม่เพื่อใช้แทน Battery A โดยใช้ในเครื่องในล็อตที่ผลิตหลังจากที่เกิดปัญหาในล็อตแรก
ปัญหาใน Battery A
ในการทดสอบนั้นพบว่าในการประกอบแบตเตอรี่เข้ากับตัวเครื่องแล้ว บริเวณมุมขวาบนของแบตเตอรี่มีการถูกกดทับจนทำให้มีการบิดงอของชั้น layer ภายในแบตเตอรี่ จึงเป็นผลทำให้เกิดการลัดวงจรและลุกไหม้ขึ้นมา
ปัญหาใน Battery 2
ในแบตเตอรี่ล็อตนี้ ไม่พบปัญหาเรื่องการกดทับที่มุมแบตเตอรี่เหมือนในล็อต A ทว่ากลับมีปัญหาเรื่องฉนวนที่กันกันระหว่างขั้วบวกและขั้วลบ ตรงบริเวณตรงกลางของแบตเตอรี่ ที่ส่งผลให้เกิดการลัดวงจรภายในและลุกไหม้ขึ้นมาได้เช่นกัน
และหลังจากที่ทั้งซัมซุงรวมถึงองค์กรอิสระตรวจสอบจนได้ข้อเท็จจริงแน่ชัดว่าเป็นเรื่องของแบตเตอรี่แล้ว ในการแถลงข่าวครั้งนี้ Samsung ได้ออกมาตรการเพื่อเป็นหลักประกันว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก โดยได้ดำเนินการอย่างละเอียดและเข้มข้น รวมถึงการใช้มาตรการตรวจสอบความปลอดภัยหลายชั้น ในขั้นตอนการวางแผนการผลิต และการใช้กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ทั้ง 8 จุด พร้อมทั้งยังได้จัดตั้งคณะที่ปรึกษาด้านแบตเตอรี่ ที่ได้รวมรวบทั้ง ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการและการค้นคว้า เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดของแบตเตอรี่และนวัตกรรม
https://youtu.be/OeKdcIOAEL8
ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า
ถือว่าเป็นการแถลงข่าวเพื่อเคลียร์ทุกความสงสัยและแคลงใจเกี่ยวกับปัญหาใน Galaxy Note 7 ว่าสาเหตุของการที่เครื่องเกิดไฟลุกไหม้นั้น สาเหตุเกิดจากแบตเตอรี่ ที่ดูแล้วถือว่าเป็นเคราะห์ซ้ำซ้อนมากๆ หลังจากที่ในล็อตแรกแก้ปัญหาได้ แต่กลายเป็นว่าล็อตที่ 2 ก็ดันมีปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก แต่ถือว่า Samsung มีความจริงใจในการแก้ปัญหาในเบื้องต้นที่ยกเลิกการทำตลาดและเก็บเครื่องทั้งหมดกลับ โดยในแถลงข่าวครั้งนี้ก็ได้แจ้งด้วยว่า Samsung เรียกเครื่องที่ทำการ activate กลับมาได้ทั้งหมด 96%
ส่วนตัวนั้นรู้สึกเสียดายกับสมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy Note7 มากๆ เพราะตอนที่ได้ลองทดสอบเครื่องก่อนวางขายนั้น มันมีประสิทธิภาพและนวัตกรรมที่ดีมากๆ เรียกได้ว่าถ้าหากไม่เกิดปัญหานี้ขึ้นมาจนต้องยกเลิกการขาย ตำแหน่งสมาร์ทโฟนแห่งปี 2016 ในหลายๆ สำนักจะต้องยกให้กับ Galaxy Note 7 อย่างแน่นอน
และจากกระบวนการตรวจสอบแบตเตอรี่ที่รัดกุมมากกว่าเดิม ก็เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาลักษณะนี้ออกมาอีก ตอนนี้ก็ได้แต่อดใจรอกับ The Next Galaxy เครื่องรุ่นต่อไปที่คาดว่าจะเปิดตัวในงาน MWC2017 ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
ที่มา : Samsung
