หลายเดือนก่อน ดารายูทูบชื่อดังอย่าง PewDiePie ที่โด่งดังขึ้นมาจากการแคสท์เกม ได้หายหน้าหายตาไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมาโพสต์วิดีโออีกครั้งด้วยท่าทีที่แปลกไปจากเดิม ซึ่งไปๆ มาๆ กลายเป็นการโพสต์วิดีโอที่ออกไปทางเหยียดชาติพันธุ์เสียอย่างนั้น
หลังจากที่ PewDiePie โพสต์เนื้อหาลักษณะดังกล่าวมากขึ้น และวิดีโอแต่ละตัวก็มีคนรับชมหลายล้านครั้ง ทำให้สื่อเริ่มสนใจ และ The Wall Street Journal เริ่มทำสกู๊ปแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาในที่สุด ซึ่งสกู๊ปดังกล่าวทำให้ทั้งทางดิสนีย์และกูเกิลต้องออกมาประกาศตัดความสัมพันธ์กับ PewDiePie
เริ่มจากดิสนีย์ที่เป็นเจ้าของ Maker Studios ซึ่งเป็นสตูดิโอทำช่องของ PiewDiePie อยู่ได้ ได้ประกาศไล่ PewDiePie ออก โดยแม้ว่าทางสตูดิโอจะให้อิสระกับ PewDiePie ในการผลิตเนื้อหา (ก่อนหน้านี้เขาก็เคยอัพโหลดวิดีโอที่กล่าวว่าเขาต้อง “เฟค” ความรู้สึกแค่ไหน ในการเล่นเกมน่าเบื่อๆ ให้ดูสนุกสนาน) แต่การกระทำครั้งนี้ของ PewDiePie นั้นถือว่าเกินกว่าเหตุและถือว่าไม่สมควร
สำหรับกูเกิลซึ่งเป็นเจ้าของยูทูบนั้น ก็ออกมาประกาศตัดความสัมพันธ์กับ PewDiePie เช่นกัน โดยทางกูเกิลจะยกเลิกการออกอากาศซีรี่ส์ Scare PewDiePie ซีซัน 2 ซึ่งเป็นรายการที่ยูทูบร่วมกันผลิตกับ PewDiePie รวมทั้งถอดแชแนลของ PewDiePie ออกจากส่วนของ Google Preferred ซึ่งเป็นโฆษณาแบบพรีเมี่ยมของกูเกิล
ส่วนทางด้าน PewDiePie ได้กล่าวว่าเขาตั้งใจทำขึ้นเล่นๆ เท่านั้น โดยคลิปดังกล่าวเป็นการจ้างให้ฟรีแลนซ์ในเว็บ Fiverr ทำขึ้นมาให้ (Fiverr เป็นเว็บที่ให้คนลงประกาศฟรีแลนซ์รับทำอะไรก็ได้ในราคา 5 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งตัวเขาเองได้ลบวิดีโอที่เป็นปัญหาบางตัวออกไปแล้ว แต่อีกหลายวิดีโอก็ยังคงอยู่บนแชแนลเขาอยู่เช่นเดิม
อ้างอิง – BGR