ในขณะที่ข่าวของ Apple กำลังพัฒนาการชาร์จแบบไร้สาย iPhone ยังเป็นเพียงข่าวลือ
แต่ตอนนี้ Disney ได้เปิดตัวงานวิจัยห้องพักที่มีความสามารถในการชาร์จอุปกรณ์ Gadget ที่รองรับแบบไร้สายแล้ว
ปัญหาที่ทีมงานกำลังแก้ไขคือ
ในปัจจุบันการชาร์จไร้สาย จะถูกจำกัดให้วางโทรศัพท์มือถือบนแท่นชาร์จ
และไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้อย่างที่ผู้ใช้ทุกคนต้องการ
“สิ่งที่เราต้องการคือเป็นประสบการณ์ชาร์จแบบสามมิติ
ที่คุณเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น หรือสำนักงาน
และโทรศัพท์มือถือของคุณจะชาร์จไฟเข้าง่ายๆ ด้วยการเดินในห้อง”
Alanson กล่าวถึงตัวอย่างหนึ่งของงานวิจัยที่กำลังทำอยู่
การจัดส่งพลังงานไร้สายสามารถทำงานได้อย่างไร ทีมงานอธิบายเพิ่ม
“มีการวาง และสร้างโครงสร้างวัตถุที่สร้างขึ้น เช่น ตู้ ,ห้อง และคลังสินค้า
เพื่อสร้างสนามแม่เหล็ก Quasistatic ที่ปลอดภัย
และส่งพลังงานเป็นหน่วยกิโลวัตต์ไปยังอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ
ในเกือบทุกส่วนของพื้นที่ภายใน”
วิธีการของทีมผู้ออกแบบ คือ มีการส่งพลังงาน 1,900 วัตต์ทั่วห้อง
ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการชาร์จ 40 ถึงร้อยละ 95 ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งของอุปกรณ์
การสร้างห้องจริงด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน
คุณจะต้องสร้างห้องตามการออกแบบที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้มันทำงาน
ดังนั้นผนังพื้นและเพดานประกอบด้วยแผงอลูมิเนียมในขณะที่ข้างใน
คุณจะพบท่อทองแดงจากพื้นจรดเพดาน
ภายในท่อครึ่งหนึ่งคือ ตัวเก็บประจุ Capacitor 15 ตัวที่ตั้งความถี่ electromagentic
และมีการการจำกัดสนามไฟฟ้า รวมถึงการติดตั้งเครื่องกำเนิดสัญญาณ, Power Amplifier
และขดลวด Drive Coil ไปที่ห้อง
“กระแสไฟฟ้าที่ถูกส่งผ่านเสาเพดานผนังและพื้น
จะสร้างสนามแม่เหล็กการไหลเวียนรอบเสา
โดยการทำงานร่วมรับขดลวดกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
เพื่อสามารถให้บริการเกือบทุกที่ในห้องพัก”
ทีมงานอธิบายในวิดีโอดังกล่าวข้างต้นเพิ่มว่า
“การมีอยู่ของประตูหน้าต่างและเฟอร์นิเจอร์
ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการชาร์จพลังงาน”
แต่ระบบดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์หรือไม่
นักวิจัยของวิจัยของ Disney กล่าวว่าเทคโนโลยีนี้
มีคุณสมบัติตรงตามแนวทางความปลอดภัยของรัฐบาลกลาง
ซึ่งหมายความว่า “มันสมบูรณ์ปลอดภัยสำหรับคนที่จะใช้พื้นที่”
ความเห็นของเรา
ความต้องการของมนุษย์ Gadget คือ สามารถพกพาไปไหนก็ได้ในจุดที่อาศัย
โดยไม่ต้องมีสายไฟมาเกะกะ แต่ว่าต้องการเข้าถึงแหล่งพลังงานไปพร้อมกัน
ฉะนั้นนี่ถือว่าเป็นอีกการก้าวกระโดดอีกครั้ง
เพียงแต่ว่าการลงทุนแบบนี้จะคุ้มค่าในความสร้างเพื่อใช้งานจริงหรือเปล่า
ที่มา : http://www.digitaltrends.com
