21 มีนาคม 2017 : Google ได้เปิดให้นักพัฒนาได้ดาวน์โหลด Android O Developer Preview สำหรับโชว์เรียกน้ำย่อยเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ในแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ (ที่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะชื่ออะไร) ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Google I/O วันที่ 17-19 พฤษภาคมนี้
มีอะไรใหม่บ้างใน Android O Developer Preview
- Background limits: ระบบการจัดการการทำงานเบื้องหลังของแอพที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานและเพิ่มเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ให้มากกว่าเดิม นักพัฒนาสามารถเลือกให้มีการทำงานเบื้องหลังของแอพได้ละเอียดยิ่งกว่าเดิม
- Notification channels: สามารถจัดหมวดหมู่ในการแจ้งเตือนของแอพได้ จากแต่ก่อนเวลาปิดเตือนคือปิดหมดทุกสิ่งอย่างในแอพนั้น จากนี้ผู้ใช้จะสามารถเลือกเปิดเตือนเป็นบางอย่างในแอพได้ ยกตัวอย่างเช่น Facebook เราจะเลือกเปิดเตือนเฉพาะเวลามีคนมาคอมเมนท์ แต่ปิดเตือนเวลามีคนมากด Like ได้
- Autofill API: ระบบการเติมข้อมูลอัตโนมัติ จะเปิดให้แอพสร้างระบบ Autofill เพื่อกรอกข้อมูลได้เองโดยตรง
- Picture in Picture (PIP) และการต่อจอจากภายนอก: ฟีเจอร์ใหม่ที่รองรับทั้งบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่สามารถแสดงผลเปิดแอพทำงานซ้อนหน้าจอได้ อย่างเช่นระหว่างที่กำลังดูวิดีโอแล้วมีแชทเข้ามาก็จะสลับย่อวิดีโอหรือซ้อนหน้าแชทขึ้นมาได้ทันที และสามารถรับสัญญาณภาพจากภายนอก รวมถึงรองรับแสดงผลหลายหน้าจอเมื่อมีการทำงาน remote display
- Font resources in XML: นักพัฒนาสามารถใส่ฟอนท์แสดงผลเอาไว้ในแอพของตัวเองได้
- Adaptive icons: รองรับการแสดงผลไอคอนของแอพได้หลายแบบในตัวเดียว ทั้งแบบสี่เหลี่ยม, ทรงมน หรือเป็นวงกลม เพื่อให้เหมาะสมกับธีมหรือ UI ของเครื่องที่ใช้ได้อัตโนมัติ
- Wide-gamut color for apps: แอพสามารถเลือกแสดงสีแบบ Wide-gamut ตามประสิทธิภาพของหน้าจออุปกรณ์ที่ใช้
- Connectivity: รองรับการเชื่อมต่อระดับสูงแบบใหม่หลายตัว อาทิ LDAC ในการรับสัญญาณเสียงคุณภาพสูงผ่าน Bluetooth, เชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์ผ่าน Wi-Fi Aware
- Keyboard navigation: สำหรับการใช้งาน Chrome OS ในการใช้คีย์บอร์ดจริงได้ดีกว่าเดิม เช่น มีปุ่ม Tab และปุ่มลูกศรสำหรับเลื่อน เพิ่มให้
- AAudio API for Pro Audio: สำหรับการใช้งานพัฒนาแอพที่ต้องการระบบเสียงแบบ low-latency audio
- WebView enhancements: จะแยกโปรเซสของ WebView ออกจากแอพหลัก ช่วยให้การทำงานของ WebView ดีขึ้นและรองรับการใช้งาน Google Safe Browsing
- Java 8 Language APIs and runtime optimizations: รองรับ Java 8 และรันไทม์ที่ทำงานเร็วขึ้นเกือบๆ 2 เท่า
- Partner platform contributions: มีการร่วมมือและพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ จากพาร์ทเนอร์อย่างเช่น Sony ที่มาช่วยพัฒนาฟีเจอร์ใหม่กว่า 30 อย่าง รวมถึงตัว LDAC codec และช่วยแก้บั้กอีกกว่า 250 ตัว
ความเห็นจากทีมข่าว ล้ำหน้าโชว์
Android O ตัว Developer Preview จะสามารถโหลดมาทดลองติดตั้งได้บน Nexus 5X, Nexus 6P, Nexus Player, Pixel, Pixel XL และ Pixel C ใครอยากลองก็ไปได้ที่ ลิงค์นี้ ส่วนชื่ออย่างเป็นทางการนั้น เชื่อว่าคนทั้งโลกอยากให้มันชื่อว่า “Oreo” ก็ต้องรอดูว่าสุดท้าย Google จะเอาขนมอะไรมาตั้งชื่อ
ข้อมูลจาก : Android Developers