เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Mobile World Congress 2017 เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หัวเว่ย (ประเทศไทย) ไม่ปล่อยให้เราต้องรอกันนาน วันนี้เปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่น Huawei P10 และ P10 Plus ในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมประกาศความสำเร็จล่าสุดขึ้นแท่นกินส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนอันดับ 2 ในตลาดประเทศไทย
ต้องเรียกได้ว่าในปีที่แล้ว Huawei P9 คือพระเอกที่ทำให้แบรนด์สมาร์ทโฟนรายใหญ่จากจีน ขึ้นมาผงาดในประเทศไทย ด้วยเรื่องของกล้องถ่ายภาพแบบเลนส์คู่ที่ทำการพัฒนาร่วมกับแบรนด์ดังอย่าง Leica จนได้กระแสตอบรับจากผู้ใช้ที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพเป็นอย่างดี แล้วมาต่อยอดเพิ่มรุ่น Mate 9 และ Mate 9 Pro ในช่วงปลายปี มาจนถึงปีนี้ หลายคนคาดหวังกับตัว Huawei P10 เอาไว้ว่าจะมีอะไรเด็ดขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ ซึ่งก็ต้องบอกว่าจัดเพิ่มเสริมเขี้ยวเล็บให้เด็ดกว่าเดิมหลายอย่างเลย
Huawei P10 ปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้สวยหรูยิ่งขึ้น ประสบการณ์ใช้งานที่ลงตัว และกล้อง Leica ทั้งด้านหน้าและหลัง
รูปทรงของตัวเครื่อง Huawei P 10 นั้นการออกแบบจะไม่ค่อยแตกต่างจาก P9 มากนัก จะมีจุดที่เปลี่ยนชัดเจนสุดคือปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่เดิมอยู่ด้านหลังถูกย้ายมาไว้ที่ด้านหน้าแทน และยังใช้งานแทนปุ่มเมนูคำสั่ง Home, back, Recent app ได้ภายในปุ่มเดียว ตัวเครื่องหน้าจอจะมีขนาด 5.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD ครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ขอบโค้ง 2.5D ด้านหลังตัวเครื่องเป็นโลหะที่ประกอบอย่างปราณีตแบบ Hyper Diamond-Cut และ Sandblast ที่พิเศษมากๆ คือใน P10 Series จะมีเครื่องให้เลือกหลากหลายสีมาก Mystic Silver, Prestige Gold, Graphite Black, Dazzling Blue, Dazzling Gold และสีใหม่สีเขียว Greenery (จะเข้ามาในไทยเร็วๆ นี้)
ประสิทธิภาพภายในใช้ชิปเซต Kirin 960 (64-bit) Octa-core RAM 4GB หน่วยความจำในเครื่องมีให้เลือก 2 รุ่น คือ 32 GB และ 64 GB โดยจะเพิ่ม microSD ได้สูงสุดถึง 256 GB แบตเตอรี่ให้มา 3,200 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว SuperCharge ส่วนระบบปฎิบัติการเป็น Android 7.0 ครอบด้วย EMUI 5.1
มาเรื่องของกล้องกัน กล้องหลังของ Huawei P10 จะเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นของเทคโนโลยีที่ทางหัวเว่ยทำร่วมกับไลก้า มาเป็นเวอร์ชั่น 2.0 ที่ใช้กล้องเซนเซอร์สี RGB ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทำงานคู่กับ กล้องเซนเซอร์สีโมโนโครม ความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซล ช่วยให้สามารถเก็บรายละเอียดของภาพถ่ายได้สวยงามมากขึ้น จากคะแนนรีวิวกล้อง P10 DXOmark ให้คะแนนที่สูงถึง 87 คะแนนเลยทีเดียว โดยที่ตัวกล้องจะมีระบบ OIS ช่วยลดการสั่นไหวของภาพ รูรับแสงจะมีขนาด f/2.2 และใช้เลนส์เป็น SUMMARIT-H
ทางด้านกล้องหน้าใน Huawei P 10 ได้เปลี่ยนมาใช้กล้องเซนเซอร์ของ Leica เหมือนกับกล้องหลัง ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้กล้องของ Leica ทั้งด้านหน้าและหลัง ช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าได้สวยงามมากยิ่งขึ้น โดยรูรับแสงจะกว้างถึง f/1.9 พร้อมทั้งมีโหมดถ่าย Portrait ที่ช่วยละลายภาพฉากหลังให้เวลาที่ถ่ายเซลฟี่ออกมาได้สวยเด่นยิ่งกว่าเดิม
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือถูกย้ายมาไว้ด้านหน้า ที่ใช้เป็นปุ่มควบคุมทั้งหมดได้ในปุ่มเดียว
Huawei P 10 Plus ก้าวไปอีกขั้นกับกล้อง Leica Dual-Camera 2.0 Pro
มาทางด้านของรุ่น Huawei P 10 Plus โดยรวมแล้วสเปคภายในของเครื่องจะเหมือนกับ P10 คือใช้ชิปเซต Kirin 960 (64-bit) Octa-core RAM 4GB ใส่หน่วยความจำให้มาตรฐาน 64 GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 256 GB วัสดุงานประกอบภายนอกก็จะเหมือนกัน จะต่างอย่างแรกเลยคือเรื่องของขนาดที่มีหน้าจอใหญ่กว่าคือ 5.5 นิ้ว QHD และแบตเตอรี่ที่เพิ่มให้มากขึ้นเป็น 3,750 mAh
ทางด้านของกล้อง ตัวกล้องหน้าจะเป็นกล้อง Leica ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/1.9 เท่ากัน แต่ว่ากล้องหลังจะเป็นเทคโนโลยีกล้อง Dual-Camera 2.0 Pro ที่เหนือกว่า P10 ตรงที่ใช้เลนส์เป็น SUMMILUX-H ที่รูรับแสงจะกว้างกว่าถึง f/1.8 ช่วยให้ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดียิ่งกว่าเดิม
เปิดให้จอง 17-26 มีนาคม พร้อมรับของพรีเมี่ยมสุดพิเศษ เริ่มวางขาย 31 มีนาคม
สมาร์ทโฟน Huawei P10 และ P10 Plus จะเริ่มเปิดให้ผู้ที่สนใจทำการสั่งจอง Pre-order ล่วงหน้ากันในวันที่ 17-26 มีนาคมนี้ โดยกำหนดราคาทั้ง 3 รุ่นไว้ดังนี้คือ
- Huawei P 10 รุ่นความจุ 32 GB ราคา 17,900 บาท
- Huawei P 10 รุ่นความจุ 64 GB ราคา 19,900 บาท
- Huawei P 10 Plus รุ่นความจุ 64 GB ราคา 23,900 บาท
โดยผู้ที่สั่งจองล่วงหน้าจะได้รับของพรีเมี่ยมพิเศษ ที่มีจำนวนจำกัด โดยผู้ที่จอง P10 จะได้รับชุดของพรีเมี่ยมจาก Huawei พร้อมเคสแบบ View Cover ส่วนผู้ที่จอง P10 Plus จะได้ชุดพรีเมี่ยมและเคสหนังแท้ของ Leica กำหนดรับสินค้า ผู้ที่จอง Huawei P10 จะเริ่มรับของได้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน ส่วนผู้ที่จอง Huawei P10 Plus จะได้ของวันที่ 10-12 เมษายนนี้
ประกาศความสำเร็จ ขึ้นอันดับ 2 สมาร์ทโฟนยอดขายอันดับ 2 ในประเทศไทย
นายทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า “จากข้อมูลของ GFK เดือนมกราคมที่ผ่านมา หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) สามารถสร้างยอดขายจนทำให้เราขึ้นเป็นอันดับ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟนได้สำเร็จ (นับจากจำนวน unit) ซึ่งนับว่าปี 2559 ถือว่าเป็นปีทองของหัวเว่ยในประเทศไทย เพราะถึงแม้เศรษฐกิจจะยังทรงตัวแต่หัวเว่ยกลับมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 3 เท่า ซึ่ง Huawei P9 Series เป็นหนึ่งในสินค้าหลักที่ช่วยดันยอดขายให้ประสบความสำเร็จ”
ในปีนี้หัวเว่ยตั้งเป้ายอดขายโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาอีก 3 เท่าตัว โดยจะขยายช่องทางจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 8,000 จุด พร้อมเตรียมเปิดหัวเว่ย แบรนด์ช็อปอีกกว่า 45 จุดทั่วประเทศ พร้อมเน้นกิจกรรมด้านการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์เพื่อสร้างการรับรู้ทั้งในแง่แบรนด์และสินค้า ปัจจัยสุดท้ายที่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คือ ตัวสินค้า ในปีที่ผ่านมา Huawei P9 และ P9 Plus มียอดขายแล้วกว่า 10 ล้านเครื่องทั่วโลก โดยประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่ทำยอดขายได้มากที่สุดของโลกอีกด้วย ดังนั้นการเปิดตัว Huawei P10 และ P10 Plus ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ Huawei P9 Series ในการร่วมมือกันของหัวเว่ยและไลก้า ที่ได้ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมสำหรับการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนให้ได้ประสบการณ์ถ่ายภาพที่ดีเยี่ยม มีคุณสมบัติการใช้งานที่โดดเด่น ในราคาที่สมเหตุสมผล