และแล้วก็มาถึงวันที่เครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ Nintendo Switch ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วโลก คือวันที่ 3 มีนาคม 2560 ถึงแม้ประเทศไทยจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มรายชื่อประเทศที่จะได้ขายอย่างเป็นทางการ แต่วันนี้ ทีมงานล้ำหน้าโชว์ ก็ได้เจ้าเครื่อง Nintendo Switch มาถึงมือพร้อมๆ กับต่างประเทศ ที่เราจะมารีวิวแกะกล่องดูกัน ว่าซื้อเครื่องมาในแพ็คเกจปู่นินใส่ของอะไรมาให้เราบ้าง
Nintendo Switch : แกะกล่องดูกันว่ามีอะไรมาให้บ้าง
เมื่อได้เครื่องมาถึงมือ ตัวกล่องนั้นเรียกได้ว่าใหญ่กว่าเครื่องพกพาของ Nintendo ทุกรุ่นที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ถึงกับขนาดเครื่องคอนโซล ซึ่งสาเหตุที่กล่องแพ็คเกจมาใหญ่เป็นพิเศษแบบนี้ก็เพราะว่ารอบนี้ปู่นินจัดอุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องเกมรุ่นนี้มาให้อย่างครบครัน ตามคอนเซปท์ของเครื่องเล่นเกมแนวไฮบริด จะเป็น Portable สำหรับพกพา หรือว่าจะเป็นเครื่องคอนโซลเสียบต่อเล่นทีวีที่บ้านก็ได้
ตัวเครื่องจะเป็นลักษณะเหมือนแท็บเล็ต ขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD 1280 x 720 พิกเซล โดยที่หน้าจอเป็นแบบทัชสกรีน ในตอนแรกที่เห็นจากการเปิดตัวกังวลกับขนาดและความละเอียดของหน้าจอว่าหยาบเกินไปหรือเปล่า เพราะสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตส่วนใหญ่ถ้าจอขนาดนี้ความละเอียดจะเป็น Full HD 1920 x 1080 พิกเซล แต่พอได้ลองเล่นแล้วถือว่าโอเค ไม่รู้สึกว่าภาพหยาบหรือเห็นเม็ดพิกเซล อีกทั้งมีระบบเซนเซอร์แสงที่ปรับแสงสว่างของหน้าจอให้อัตโนมัติได้
สเปคภายในของ Nintendo Switch นั้นตัวชิปประมวลผลใช้เป็น Nvidia Tegra รุ่นปรับแต่งพิเศษ และตัวประมวลผลกราฟฟิคใช้เป็นของ Nvidia ที่เมื่อเล่นในคอนโซลโหมดต่อออกทีวี ภาพจะได้ที่ระดับ 1080p 60fps ภายในตัวเครื่องมีหน่วยความจำมาให้ 32GB รองรับ microSD แบบ SDXC เชื่อมต่อออนไลน์ผ่านทาง Wi-Fi เพียงอย่างเดียว
โดยที่ช่องสำหรับเสียบการ์ด microSD นั้นจะซ่อนอยู่หลังขาตั้งด้านหลังเครื่อง และที่ด้านหลังเครื่องยังมีลำโพงคู่แบบสเตอริโอ เสียงดังในระดับที่ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว
ด้านบนของตัวเครื่องไล่จากทางซ้ายจะเป็นช่องสำหรับเสียบตลับเกม, ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร ช่องระบายความร้อนที่ตอนแรกเห็นขนาดแล้วตกใจ แต่พอเล่นจริงๆ ไม่ได้ยินเสียงพัดลมและอุณหภูมิเครื่องก็ไม่รู้สึกว่าร้อน (หรืออาจจะเพราะจับที่ Joy-con เลยไม่รู้สึก) ต่อมาเป็นปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับปิดเปิดเครื่องและปิดหน้าจอ
ด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นช่องพอร์ตแบบ USB Type-C สำหรับเอาไว้เสียบชาร์จไฟ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Nintendo ที่ใช้พอร์ตเชื่อมต่อและชาร์จไฟแบบที่สากลโลกเค้าใช้กัน เพราะปกติออกเครื่องเกมพกพาอะไรมา ก็จะรังสรรค์เทคโนโลยีพอร์ตแบบใหม่ออกมาตลอด
มาถึงของเด่นของ Nintendo Switch นั่นก็คือ Joy-con ที่เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมในการออกแบบคอนโทรลเลอร์สำหรับเล่นเกม ให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่น่ได้หลากหลาย โดยสามารถถอดประกอบติดกับตัวเครื่อง หรือจะถอดแยกออกมาเล่นเป็นแบบไร้สายก็ยังได้ การเชื่อมต่อนั้นทำงานผ่าน Bluetooth ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้จะเรียกแยกกันคือ
- Joy-con L คือตัวส่วนซ้ายที่เป็นอนาล็อคกับปุ่มทิศทาง พร้อมปุ่มเมนูเป็นเครื่องหมายลบ ด้านล่างจะมีปุ่มสำหรับกดจับภาพหน้าจอระหว่างเล่นเกม (Screenshot) และที่ด้านบนจะเป็นปุ่ม L และ ZL
- Joy-con R เป็นตัวจอยที่ติดทางด้านขวาของเครื่ออง ปุ่มก้านอนาล็อคกับปุ่ม A B X Y R ZR และมีปุ่ม Home เพื่อกดออกจากเกมไปยังหน้า Home ส่วนปุ่มเมนูของ Joy-con R จะเป็นสัญลักษณ์ +
ตัว Joy-con นั้น มีโหมดการใช้งานได้หลายอย่าง ทั้งใช้เป็น 2 จอยสำหรับ 1 ผู้เล่น หรือจะแยกเป็นจอยเล็กๆ สำหรับผู้เล่นแต่ละคนก็ยังได้ และภายในยังมีตัวเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวแบบเดียวกับในเครื่อง Wii แต่ว่าจะมีความละเอียดและแม่นยำมากกว่า
อีกอย่างที่มีมาให้ในตัว Joy-con ก็คือระบบสั่นแบบ force feedback ที่นินเทนโดภูมิใจนำเสนอว่ามันสั่นแบบมีรายละเอียดความหนักเบาที่เป็นธรรมชาติและให้ความรู้สึกที่สมจริงมากกว่าคอนโทรลเลอร์ทั่วๆ ไป
ที่ด้านล่างของ Joy-con R จะมีกล้องเซนเซอร์จับวัตถุแบบ 3D ลักษณะคล้ายๆ กับกล้อง Kinect ของ Xbox เพื่อเอาไว้ใช้เล่นในเกมบางเกมในรูปแบบที่จับภาพของผู้เล่นได้ และที่ก้านอนาล็อกของ Joy-con R ยังเป็นที่สำหรับสแกนตุ๊กตา Amibo เพื่อปลดล็อคไอเท็มหรือเอาไปใช้เล่นในเกมบางเกมได้อีกด้วย
ที่ Joy-con จะมีปุ่มสำหรับกดเพื่อจับคู่กับอุปกรณ์ โดยจะมีไฟ 4 ดวงแสดงสถานะว่าเป็นคอนโทรลเลอร์หมายเลขอะไร มีตั้งแต่ 1-4 และมีปุ่มเล็กๆ SL และ SR สำหรับบางเกมตอนที่ใช้แยกเล่น 2 คน
ที่ด้านหลังของ Joy-Con จะมีปุ่ม release อยู่ เวลาที่ต้องการถอดจอยออกจากตัวเครื่องหรืออุปกรณ์อื่นๆ ก็ให้กดปุ่มนี้ค้างเอาไว้แล้วเลื่อนออกได้เลย
เมื่อประกอบ Joy-con ทั้ง 2 ชิ้นเข้ากับตัวเครื่องก็จะได้ Nintendo Switch ในโหมดพกพาเป็นที่เรียบร้อย โดยขนาดเครื่องจะอยู่ที่ 102 mm x 239 mm x 13.9 mm ส่วนน้ำหนักเครื่องรวมแล้วจะอยู่ที่ 398 กรัม ถือว่าเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มาก ถ้าเทียบกับ iPad Mini แล้วถือว่าเล็กและเบากว่าพอสมควรเลยทีเดียว
ด้านหลังที่ประกอบร่างเสร็จสมบูรณ์ขนาดอาจจะดูใหญ่ แต่เมื่อถือเล่นแล้วยังถนัดอยู่ ตัวปุ่ม ZL และ ZR มีโค้งรับออกมาช่วยให้กดได้ถนัดมากขึ้น
อุปกรณ์ที่มีมาให้ในแพ็คเกจชิ้นต่อไป จะเป็นตัวสายรัดข้อมือที่เอามาประกบกับตัว Joy-con L และ R ที่จะช่วยเพิ่มขนาดตัวจอยให้ใหญ่จับถนัดมาขึ้น และมีเพิ่มตำแหน่งให้กดปุ่ม SL และ SR ได้ดีกว่าเดิม ก็เอาไว้เวลาใช้เล่นเกมกับเพื่อนในโหมด Multi-player ได้ถนัดมากขึ้น
ชิ้นต่อมาเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับ Joy-con L และ R เป็นตัว Controler Grip ที่ให้เอาจอยทั้ง 2 อันมาเสียบประกอบเข้าเป็นจอยบังคับที่จับถนัดเข้ากับอุ้งมือมากขึ้น เหมาะสำหรับเวลาเล่นเกมที่บ้านต่อออกจอใหญ่ในโหมดคอนโซล (มีคนแซวว่าจอยอันนี้หน้าตาเหมือนน้องหมาหูตูบ)
อีกสิ่งที่สำคัญสำหรับ Nintendo Switch ที่แถมมาให้ด้วยก็คือตัวแท่น Dock สำหรับใช้งานเป็นโหมดคอนโซลเล่นเกมในบ้าน โดยที่ตัวมันจะเสียบสาย AC Adaptor, USB และ HDMI แล้วพับเก็บปิดดูเรียบร้อย คราวนี้ถ้าต้องการเล่นเกมที่บ้าน ก็แค่เอา Nintendo Switch มาเสียบเข้าที่แท่น ภาพก็จะขึ้นสู่จอใหญ่ เล่นภาพกราฟฟิคสวยๆ ได้ถึง 1080p 60 fps กันไปเลย
ในกล่องมีสาย HDMI มาให้ด้วย หลายคนค่อนขอดว่านินเทนโดขี้งก ให้สายมาสั้นไป อันที่จริงตอนนี้ก็มีกันแทบทุกบ้านแล้ว จะใช้สายยี่ห้ออะไรก็ได้นะ
ตัว AC Adaptor สำหรับชาร์จไฟหัวเป็นแบบ USB Type-C ความยาวประมาณ 1.5 เมตร หัวแจ็ครุ่นที่ขาในไทยเป็นแบบเดียวกับสิงค์โปร และเป็น 100-240 V เสียบชาร์จได้ทั่วโลก สามารถชาร์จแบตฯ ของเครื่องที่มีความจุ 4310mAh จนเต็มได้ในเวลา 3 ชั่วโมง โดยแบตเตอรี่ตามสเปคจะสามารถใช้เล่นเกมได้นานประมาณ 3 ชั่วโมง
สำหรับตัวเครื่องนั้นรับไฟอยู่ที่ 15V 2.6 A ที่ดูแล้วตอนนี้พวกพาวเวอร์แบงค์ทั่วๆ ไปไม่น่าจะเอาอยู่ คาดว่าในอนาคตคงจะมีอุปกรณ์เสริมเป็นแบตพาวเวอร์แบงค์แบบที่ใช้ได้ออกมา
ตลับเกมสำหรับ Nintendo Switch
นินเทนโดยังคงยืนหยัดที่จะใช้เป็นแบบตลับเกมอยู่เหมือนเดิม ที่คราวนี้ตัวกล่องแพ็คเกจเกมจะเป็นทรงยาวสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดพอๆ กับ PSP ไม่เหมือนกับของ 3DS ที่ออกแนวสี่เหลี่ยมจัตุรัส พอเปิดกล่องมาถึงกับข้างใน เพราะเจอตลับเกมอันเล็กๆ แปะอยู่ และไม่มีคู่มืออะไรเลย
ความเล็กของตลับนั้น เราวางเทียบกับเหรียญ 10 บาทก็จะเห็นเลยว่ามันเล็กจริงๆ ดังนั้นพกพาไปไหนหากล่องใส่ให้ดี มีหล่นหายกันได้ง่ายๆ ล่ะแบบนี้
ช่องเสียบตลับเกมจะอยู่ที่ด้านบนของเครื่อง เปิดฝามาแล้วกดลง 1 ทีเพื่อให้เกมล็อก ปิดฝาแล้วก็เล่นได้เลย
สุดท้ายมาดู Live พี่หลามแกะกล่อง เล่นแบบละเอียดทุกเกม ล้วงให้เห็นทุกไส้กันไปเลย ว่าตกลง Nintendo Switch มันน่าซื้อหรือเปล่า?
จบกันไปสำหรับการแกะกล่องในวันแรกที่เครื่องออกวางจำหน่าย ตอนนี้เชื่อว่าตามร้านเกมใหญ่ๆ ทั่วกรุงเทพฯ สินค้าน่าจะมากันหมดแล้ว ส่วนเรื่องของราคาขาย ตอนนี้มีมากมายหลายแบบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบขายเครื่องพร้อมกับตลับเกมด้วย 1-2 เกม โดยราคาจะอยู่ที่ราวๆ 17,000-18,000 บาท ส่วนคราวต่อไปเดี๋ยวทีมงานฯ จะมาแนะนำเรื่องของการ Set Up เครื่องครั้งแรก และการสมัคร Account ของ Nintendo เพื่อใช้ซื้อเกมแบบ Digital ผ่านทาง Nintendo eShop