เรื่องเกี่ยวกับ ราคา ของ iPhone นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาด ล่าสุดมีนักวิเคราะห์ได้ให้ข้อมูลประมาณการว่า iPhone 8 ราคา จะเพิ่มขึ้นกว่าตอน iPhone 7 ประมาณ $130-$150 หรือประมาณ 4,500-5,000 บาท เลยทีเดียว
iPhone 8 ราคา สูงขึ้น เหตุผลมาจากวัสดุที่เปลี่ยนไป
Simona Jankowski นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ได้เขียนบันทึกสำหรับนักลงทุน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ด้านราคาของ iPhone รุ่นต่อไปที่จะออกในปี 2017 นี้ จะมีการใช้วัสดุในการผลิตที่เปลี่ยนไป เริ่มด้วยหน้าจอจะเปลี่ยนมาใช้เป็นแบบ OLED ที่ไม่มีขอบด้านข้าง (Bezel-less) ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงปุ่ม Home ก็จะไม่มีที่หน้าจออีกต่อไป และชิปประมวลผลตัวใหม่ Apple A11
ทางทีมของ Goldman ได้ประเมินต้นทุนราคาของชิ้นส่วนตัวใหม่ อย่างหน้าจอ OLED 5.8 นิ้ว จะมีราคาแพงกว่าเดิมประมาณ $35 ตัว 3D-Sensing แบบใหม่ก็น่าจะมีราคาเพิ่มขึ้นอีก $20 รวมถึงระบบหน่วยความจำที่ดีกว่าเดิมก็น่าจะมีราคาเพิ่มอยู่ราวๆ $16 – $29
สำหรับ iPhone 8 ราคา ที่ทาง Goldman คาดการณ์ไว้ ในรุ่น iPhone 8 ความจุ 128 GB ราคาจะอยู่ที่ $999 ส่วนรุ่น 256 GB จะอยู่ที่ $1,099
นอกจากนี้ยังคาดว่าปลายปีนี้ Apple จะออก iPhone 7s และ iPhone 7s Plus ที่เป็นรุ่นปรับปรุงสเปคและเทคโนโลยีบางอย่างใหม่ โดยจะเปิดราคาขายเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่ขายอยู่ในปัจจุบันคือ $649 และ $769
ความเห็นจากทีมข่าว ล้ำหน้าโชว์
การวิเคราะห์นี้ถือว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างมาก เพราะถ้าหาก Apple เลือกเปลี่ยนมาใช้หน้าจอ OLED แบบใหม่ที่จะช่วยให้สามารถออกแบบ iPhone 8 ให้มีหน้าจอแบบเต็มๆ ไม่เหลือขอบข้างและสวยงาม ก็ต้องมีต้นทุนด้านวัตถุดิบที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน รวมถึงกระแสข่าวว่าปริมาณตัวจอ OLED ที่ต้องใช้นั้นอาจจะไม่พอกับที่ Apple ต้องการจนทำให้อาจจะต้องเลื่อนเวลาการวางจำหน่าย iPhone 8 ที่เดิมจะอยู่ช่วงเดือนกันยายน-มิถุนายน เป็นช่วงเดือนธันวาคมปลายปีแทน
ที่มา : Mashable