ซานฟรานซิสโก นับเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีการใช้การขนส่งระบบรางกันเป็นหลัก ล่าสุดหน่วยงานเดินรถของซานฟรานซิสโกได้ออกมาประกาศเตรียมหันไปใช้พลังงานสะอาดทั้งระบบแล้ว
ระบบขนส่งมวลชนอ่าวซานฟรานซิสโก (BART – Bay Area Rapid Transit) ได้ประกาศนโยบายใหม่ที่จะหันไปใช้พลังงานสะอาดทั้งระบบภายในปี 2045 นี้ (28 ปีหลังจากนี้) โดยในระยะแรก ทาง BART จะจำกัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงภายในปี 2024 และตั้งเป้าหมายว่าจะใช้พลังงานทดแทนให้ได้ครึ่งหนึ่งของระบบภายในปี 2025 โดย 90% ของพลังงานทดแทนดังกล่าวจะมาจากแหล่งพลังงานที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำหรือไม่ปล่อยเลย และจะใช้แหล่งพลังงานทดแทนที่ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เลยภายในปี 2035 และในขั้นสุดท้ายของนโยบายดังกล่าวคือขยายการใช้พลังงานทดแทนจากครึ่งหนึ่งของระบบเป็นทั้งระบบภายในปี 2045
พลังงานเหล่านี้ส่วนหนึ่งจะเป็นการลงทุนของทาง BART เอง และส่วนที่เหลือจะเป็นการซื้อจากผู้ผลิตพลังงานทดแทนรายอื่น ซึ่งปัจจุบันระบบรถไฟฟ้าของ BART ใช้พลังงานมากกว่าเมืองอลาเมด้าทั้งเมือง หรือคิดเป็นปริมาณว่า 400,000MW/h ต่อปี
ก่อนหน้านี้ทางรัฐแคลิฟอร์เนียได้ออกนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนให้ได้ถึง 50% ภายในปี 2035 มาก่อนแล้ว ซึ่งนโยบายของ BART นี้ถือได้ว่าไปไกลกว่านโยบายของทางรัฐเองเสียอีก นอกจากนี้รถไฟ Caltrain ที่วิ่งระหว่างซานฟรานซิสโก ซานมาเตโอ และซานตาคลาร่า ก็เคยออกมาประกาศหันไปใช้พลังงานทดแทนมาก่อนแล้วด้วยเช่นกัน
อ้างอิง – Engadget