แม้ว่าในส่วนของบริการ Ride-sharing ของ Uber นั้นจะประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม แต่ในเรื่องของการบริหารภายในแล้ว Uber กลับประสบปัญหาอย่างหนัก โดยล่าสุดนาย Travis Kalanick ผู้ก่อตั้ง Uber และดำเริงตำแหน่ง CEO ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว
ก่อนหน้านี้นาย Kalanick ได้ประกาศพักงานไม่มีกำหนดเพื่อไว้อาลัยแก่มารดาที่เพิ่งเสียชีวิตไป โดยงานบริหารต่างๆ จะตกอยู่ในมือของผู้บริหารคนอื่นๆ แทน หากแต่ว่าจากปัญหาต่างๆ ของ Uber ทำให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Uber ตัดสินใจโหวตให้นาย Kalanick ลงจากตำแหน่ง CEO อย่างเป็นทางการ โดยทางบอร์ดได้ส่งจดหมายถึงนาย Kalanick ให้ลงจากตำแหน่งทันที ซึ่งหลังจากที่นาย Kalanick ได้ปรึกษากับผู้บริหารคนอื่นของ Uber แล้ว เขาก็ตัดสินใจลงจากตำแหน่งแต่โดยดี ทั้งนี้ตัวเขาจะยังคงอยู่ในบอร์ดบริหารต่อไป
ในช่วงที่ผ่านมา Uber มีปัญหาต่อเนื่องจากการบริหารของนาย Kalanick หลายอย่าง เช่นกรณีที่ Uber กับ Google กำลังฟ้องร้องกันอยู่ในขณะนี้ กับกรณีการละเมิดสิทธิบัตรของ Waymo หนึ่งในบริษัทลูกของกูเกิล (Alphabet) ที่วิจัยด้านรถยนต์อัตโนมัติ อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องสิทธิสตรีในองค์กร ที่มีท่าทีว่านาย Kalanick จะกดเงินเดือนพนักงานหญิงมากกว่า และยังมีประเด็นการคุกคามทางเพศของนาย Kalanick ต่อพนักงานหญิงของ Uber ด้วย
หลังจากที่นาย Kalanick ลงจากตำแหน่ง CEO แล้ว ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าทางบอร์ดของ Uber จะผลักดันใครขึ้นมาดำรงตำหน่ง CEO แทน ทั้งนี้บอร์ดของ Uber เห็นพ้องกันว่าจะนำคนนอกเข้ามานั่งรับตำแหน่งกรรมการในบอร์ด 2 คน จากตำแหน่งที่ว่างอยู่ 3 ตำแหน่ง
บอร์ด Uber กล่าวว่าการให้นาย Kalanick ลงจากตำแหน่งนั้นคือการผลักดัน Uber ไปข้างหน้า ซึ่งการที่นาย Kalanick ลงจากตำแหน่งในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ในประวัติศาสตร์ของ Uber ต่อไป นอกจากนี้ทาง Uber ยังได้ส่งอีเมลถึงคนขับ Uber แจ้งเรื่องจะเริ่มเปิดให้คนขับรับทิปจากลูกค้าได้อีกด้วย
อ้างอิง – NY Times