LINE และ เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร ประกาศความร่วมมือในพิธีลงนามเซ็นสัญญาร่วมพัฒนาบริการ LINE TAXI โดยนำความแข็งแกร่งของ LINE ด้านจำนวนผู้ใช้งาน และศักยภาพทางด้านเทคโนโลยี ผนวกกับเครือข่ายคนขับแท็กซี่ถูกกฎหมายกว่า 60,000 ราย ภายใต้เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร ในการยกระดับประสบการณ์การใช้บริการแท็กซี่ที่สะดวกและรวดเร็วให้กับผู้ใช้งานชาวไทย ด้วยการพัฒนารูปแบบการให้บริการที่ง่ายดายยิ่งขึ้นผ่าน LINE โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือให้ทุกคนสามารถใช้บริการ LINE TAXI ผ่านเครือข่ายคนขับแท็กซี่ของสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร จึงรับประกันได้ว่าผู้ใช้งานจะสามารถรับบริการแท็กซี่ได้แม้ในช่วงเวลาฝนตกหรือชั่วโมงเร่งด่วน โดยไม่ต้องเสียเวลารอนาน
LINE TAXI พัฒนาขึ้นโดยสอดคล้องตามนโยบายกรมการขนส่งทางบก จึงถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย
นอกจากนี้แล้วอีกหนึ่งวัตถุประสงค์สำคัญ คือ การยกระดับมาตรฐานและความเป็นอยู่ของคนขับแท็กซี่ในประเทศไทย ด้วยจำนวนลูกค้าเรียกใช้บริการ และรายได้ที่มากขึ้น รวมถึงความปลอดภัยของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งLINE TAXI ถือเป็นแท็กซี่ไทยภายใต้แนวคิด Taxi 4.0 ที่พัฒนาขึ้นให้สอดคล้องตามนโยบายของกรมการขนส่งทางบก และถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย จึงนับเป็นกำลังสำคัญในการนำพาอุตสาหกรรมแท็กซี่ไทยเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) โดยLINE TAXI จะเริ่มให้บริการภายในสิ้นปี 2017
นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “คนขับแท็กซี่ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) ซึ่ง LINE และ เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ เขตกรุงเทพมหานคร มีจุดมุ่งหมายที่จะร่วมพัฒนาแท็กซี่ไทยให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยเรามองว่าเทคโนโลยี ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก แต่กลับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่ในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยต้องการชีวิตที่รวดเร็ว สะดวกสบาย และปลอดภัย เราจึงตั้งเป้าในการพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด”
LINE TAXI ถือเป็นบริการลำดับที่ 5 ภายใต้การดำเนินงานของ LINE MAN หลังจากบริการสั่งซื้ออาหาร (Food Delivery) แมสเซนเจอร์ (Messenger) สั่งของสะดวกซื้อ (Convenience Goods) และส่งพัสดุ (Postal) ที่เราสร้างสรรค์ขึ้นจากความต้องการของผู้ใช้งาน LINE ในประเทศไทย โดยปัจจัยด้านการขนส่ง (Transportation) ถือเป็นบริการที่ผู้บริโภคชาวไทยมีความต้องการเป็นอย่างสูง แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า ด้วยจำนวนแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่มากกว่า 90,000 คัน และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เข้ามาให้บริการในปัจจุบัน ยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด ผู้ใช้งานยังคงต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาการไม่สามารถเรียกแท็กซี่ได้ในช่วงเวลาเร่งด่วนหรือฝนตก การปฏิเสธผู้โดยสาร หรือแม้กระทั่งความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้บริการ
“จุดเด่นของLINE TAXI คือ การนำเอาความแข็งแกร่งของแบรนด์ LINE ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานครอบคลุมมากกว่า 90% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือในประเทศไทย รวมถึงรูปแบบการใช้งานที่ง่าย ทั้งสำหรับฝั่งผู้โดยสาร และคนขับแท็กซี่ มาผนึกกำลังกับเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีสมาชิกคนขับแท็กซี่ ถูกกฎหมายร่วมให้บริการมากกว่า 60,000 ราย หรือคิดเป็น 60% ของจำนวนแท็กซี่ที่ให้บริการทั้งหมดในกรุงเทพฯ ซึ่งล้วนมีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายและข้อปฏิบัติต่างๆ เป็นอย่างดี” นายอริยะกล่าวเสริม
นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร นับเป็นเครือข่ายผู้ให้บริการแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีสมาชิกสหกรณ์ในเครือข่ายมากกว่า 60,000 ราย ซึ่งคิดเป็นกว่า 60% ของผู้ให้บริการแท็กซี่ทั้งหมดในกรุงเทพฯ ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาหลัก ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การให้บริการของแท็กซี่โดยตรง คือ การปฏิเสธผู้โดยสาร ซึ่งมีสาเหตุจากรายได้ ของคนขับแท็กซี่ที่ไม่คุ้มทุนในแต่ละวัน โดยเราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีจะสามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับเราได้ และเมื่อ LINE แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเข้ามาร่วมงานกับเราภายใต้การดำเนินงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย เราจึงได้ตกลงที่จะร่วมมือกันในการสร้างสรรค์รูปแบบการให้บริการซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของแท็กซี่ในประเทศไทย ที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานในช่วงที่ผ่านมา โดยบริการแท็กซี่รูปแบบใหม่นี้ จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านคุณภาพการให้บริการที่สูงขึ้นให้กับอุตสาหกรรมแท็กซี่ในประเทศไทย ถือเป็นทางเลือกใหม่ ที่ดียิ่งขึ้นของผู้โดยสารในการเรียกใช้บริการแท็กซี่ นอกจากนี้ ยังถือเป็นก้าวใหม่สู่โลกยุคดิจิตอลของแท็กซี่ไทย อย่างเต็มรูปแบบโดยการใช้เทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มโอกาสในการเรียกใช้งานของผู้โดยสารที่มากขึ้น ตามมาซึ่งรายได้และความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผู้โดยสารก็จะได้รับการบริการที่ปลอดภัย ประทับใจ และเชื่อถือได้ ไม่ถูกปฏิเสธ การให้บริการอย่างแน่นอน”
“ไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) ถือเป็นยุคแห่งเทคโนโลยี ซึ่งคนไทยทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงแนวคิด Taxi 4.0 ที่พัฒนาขึ้นเพื่อคนขับแท็กซี่ในประเทศไทยทั้งหมด ทั้งนี้ LINE TAXIเป็นแอพพลิเคชั่น ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยคนไทยเพื่อคนไทย ถูกกฎหมาย 100% มีการใช้งานที่ง่ายทั้งสำหรับผู้ใช้งานและคนขับ ถือเป็นต้นแบบของบริการที่ LINE สามารถนำมาพัฒนาสู่ความเป็นดิจิตอลได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ยังคงสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยผู้ใช้งานทั่วไป” นายอริยะกล่าวสรุป