ผลสำรวจฉบับล่าสุดของวีซ่า เกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภค แสดงให้เห็นว่า 9 ใน 10 ของคนไทยสนใจที่จะชำระเงินผ่าน โมบายวอลเล็ต หากมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่น่าไว้วางใจ รวมถึงข้อเสนอจูงใจและบริการเสริมอื่นๆ เช่น แบรนด์ลอยัลตี้โปรแกรม และการสะสมแต้มต่างๆ เป็นต้น
การทำแบบสำรวจครั้งที่สี่ประจำปี พบว่า 94 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามมีแนวโน้มที่จะใช้ โมบายวอลเล็ต แทนเงินสดมากขึ้น หากการชำระเงิน ผ่านโมบายวอลเล็ต มีข้อเสนอและรางวัลต่างๆ รวมถึงฟังก์ชันในตัว เช่น การสะสมแต้ม การแจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดการสั่งซื้อ รวมถึงใบเสร็จรับเงินแบบดิจิตอลเพื่อติดตามค่าใช้จ่าย สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะลองใช้ โมบายวอลเล็ต มากยิ่งขึ้น
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นการยืนยันได้ว่าผู้บริโภคไม่เพียงแค่ต้องการการชำระเงินผ่านมือถือที่รวดเร็ว ใช้งานง่าย และปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องการโปรโมชั่น และฟังก์ชั่นในการสะสมหรือใช้แต้มได้ด้วย ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตามผู้คนเริ่มมองว่าการชำระเงินไม่ได้เป็นแค่การใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว ซึ่งวีซ่าในฐานะผู้ให้บริการการชำระเงินระดับโลก ยังคงพัฒนาทั้งระบบการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจุดรับบัตรทั่วโลก การสร้างแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรมต่างๆ สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นจูงใจ รวมถึงการเพิ่มความปลอดภัยให้รัดกุมและทันสมัย”
การชำระเงินผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เช่น หน่วยลงทุนและการช้อปปิ้งออนไลน์ สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินคิดเป็นครึ่งหนึ่งของการทำธุรกรรมบนมือถือ (51 เปอร์เซ็นต์) ในขณะที่การซื้อของออนไลน์คิดเป็นสามในสิบ (31 เปอร์เซ็นต์) ในส่วนของผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินนั้นมีการใช้งานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 14 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่าเก้าในสิบผู้ตอบแบบสอบถาม (87 เปอร์เซ็นต์) ชำระเงินผ่านมือถือในปีที่ผ่านมาและ 58 เปอร์เซ็นต์ได้ใช้เป็นประจำทุกสัปดาห์ แต่อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการหันมาใช้การชำระเงินผ่านมือถือคือเรื่องความปลอดภัย
อุปสรรคสำคัญในการหันมาใช้การชำระเงินผ่านมือถือคือความกลัวจากการแฮ็กโทรศัพท์และการขโมยข้อมูล (34เปอร์เซ็นต์) การทำโทรศัพท์หายหรือถูกขโมย (22 เปอร์เซ็นต์) การเข้าถึงบัญชีส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต (17เปอร์เซ็นต์) รวมถึงไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ (9 เปอร์เซ็นต์)
“ในขณะที่ผู้คนให้ความสำคัญกับความสะดวกและสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการชำระเงินผ่านมือถือ แต่ความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับวีซ่าแล้ว ไม่ว่าการชำระเงินแบบไร้สัมผัสจะดำเนินการผ่านบัตร โทรศัพท์มือถือ หรือการชำระเงินด้วย QR Code เราจะใช้วิธีรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้นเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจและอุ่นใจในขณะที่ชำระเงิน อาทิเช่นบริการ Visa Token Service (VTS) ที่เปลี่ยนหมายเลขบัตรชำระเงินด้วยตัวเลขดิจิตอลที่ไม่ซ้ำกันหรือ ‘โทเค็น’ สำหรับการชำระเงินออนไลน์และผ่านมือถือโดยไม่ต้องเปิดเผยรายละเอียดของบัญชีจริง และรวมถึงการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน สำหรับ โมบายคอมเมิร์ซ” นายสุริพงษ์ กล่าวเสริม
โดยเฉพาะ QR Code จะเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนโลกให้เข้าสู่สังคมไร้เงินสดในอนาคต วีซ่าและสมาชิกของ EMVCo ได้มีการเปิดตัวมาตรฐาน QR Code แบบใหม่ทั่วโลก และได้มีร้านค้านำมาตรฐานนี้ไปใช้อย่างประสบความสำเร็จในกว่า 15 ประเทศทั่วโลก
QR Code มาตรฐาน EMVco นี้เป็นขั้นตอนทสำคัญที่จะส่งเสริม interoperability หรือการเชื่อมต่อระบบชำระเงินแบบเปิด เพื่อให้ QR Code เติบโตอย่างรวดเร็วและได้มาตรฐานสากลโดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัย และความเร็วของธุรกรรม ณ ปัจจุบัน ธนาคารทั้ง 33 แห่งและผู้ค้ากว่า 328,000 รายในประเทศอินเดีย เคนย่า และไนจีเรียได้นำระบบมาตรฐาน QR Code นี้มาใช้งานแล้วและ ทำให้การชำระเงินแบบดิจิตอลโตอย่างรวดเร็ว
EMVCo เป็นหน่วยงานด้านเทคนิคทั่วโลกที่มีภารกิจจัดการ รักษา และพัฒนาข้อกำหนด EMV เพื่อให้มั่นใจว่ามีการใช้งานร่วมกันและจุดให้บริการ EMV ทั่วโลก