OZO เป็นอีกนวัตกรรมกล้อง 360 องศาคุณภาพสูงที่ทาง Nokia พัฒนามาเพื่อใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่ อย่างเช่น อุตสาหกรรมภาพยนตร์ แต่ว่าตอนนี้ก็ต้องมีอันเลิกลา เพราะว่า โนเกีย ประกาศหยุดพัฒนากล้อง Nokia OZO ตัวนี้ พร้อมทั้งปลดพนักงานออก 310 คน โดยให้เหตุผลว่า ตลาดของ VR เติบโตช้ากว่าที่คาดไว้
Nokia OZO กล้อง 360 องศา ที่ผลิตมาเพื่อตลาด Virtual Reality โดยเฉพาะ
OZO นั้น ทาง Nokia เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 หรือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่ตอนนั้นตลาดของวิดีโอแบบ 360 องศากำลังเติบโต เพราะแพลตฟอร์มของ VR ในตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็น FACEBOOK, SAMSUNG, HTC ก็มีฮาร์ดแวร์ตัวแว่น VR ออกมาในตลาด
ทาง Nokia ได้มองไปยังตลาดของ VR ในระดับอุตสาหกรรม ที่เน้นภาพคุณภาพระดับโรงภาพยนตร์ ที่มีความคมชัดและคุณภาพเสียงที่สมจริง จึงได้พัฒนา OZO สำหรับในงานด้านการสร้างภาพยนตร์ 360 องศาหรืองานโฆษณาที่มีความสมจริง
และด้วยการที่เน้นตลาดอุตสาหกรรม ทำให้ OZO มันมีราคค่าตัวที่สูงมากๆ ในตอนแรกนั้นเปิดตัวมาด้วยราคาถึง 60,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 2 ล้านบาท) ถึงแม้ว่าในปีที่แล้วจะปรับราคาลงมาเหลือ 45,000 บาท (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) ก็ยังถือว่าเป็นราคาที่สูงมากๆ รวมถึงยังต้องใช้งานคู่กับคอมพิวเตอร์สเปคสูง และ Storage ขนาดใหญ่ เพื่อบันทึกและเรนเดอร์ภาพอีกด้วย
ทำให้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา Nokia OZO มีบริษัทที่สนใจซื้อไปใช้เพียงแค่ไม่กี่แห่ง ซึ่งไม่เพียงพอที่จะสร้างกำไรให้กับ Nokia และตลาดของภาพยนตร์ 360 องศาเองก็ยังเติบโตไม่มาก จึงทำให้ Nokia จำเป็นจะต้องหยุดการพัฒนาสินค้าตัวนี้ พร้อมทั้งปลดพนักงานทั้งหมดจำนวน 310 คน แต่ถึงอย่างไรก็จะยังคงมีการสนับสนุนให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปก่อนหน้านี้ต่อไป
จากการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ Nokia จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและนำมาใช้ในการพัฒนาแพลตฟอร์มอื่นๆ ของบริษัทอย่างเช่น เทคโนโลยีด้านสุขภาพ ที่ก่อนหน้านี้ Nokia ก็ได้ซื้อกิจการของ Withling มาและเปลี่ยนชื่อมาทำตลาดสินค้าเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพในนามของ Nokia
ข้อมูลจาก : Tech Crunch