ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา Wiko สมาร์ทโฟนแบรนด์ดังจากฝรั่งเศส เปิดตัวรุ่นใหม่คือ Wiko View ที่ถือว่ามีความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้พอสมควร ที่โดดเด่นสุดๆ เลยก็คือ ใช้หน้าจอขนาดสัดส่วนใหญ่ แบบ 18:9 ซึ่งตอนนี้หลายๆ แบรนด์ปล่อยออกมากันอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ต้องจับตามองรุ่นนี้เป็นพิเศษก็ตรงที่ว่า เปลี่ยนมาใช้หน้าจอขนาดใหม่ แต่ยังคงคอนเซปต์สเปคดีในราคาสุดคุ้ม เพราะว่าเปิดขายใน ราคา 4,990 บาท เท่านั้น!!
Wiko View : สเปคเครื่องเบื้องต้น
- ขนาด 51.5 x 73.1 x 8.7 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 160 กรัม
- หน้าจอ IPS ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1440×720 พิกเซล)
- ชิปเซต Qualcom Snapdragon 425 MSM8917, Quad-Core 1.4GHz Cortex-A53
- GPU Adreno 308
- RAM 3 GB
- ROM 16 GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 128GB
- รองรับ 2 ซิม (Micro SIM)
- เครือข่าย 3G / 4G LTE (CAT4) DL 150 Mbps, UL 50 Mbps
- ระบบปฎิบัติการ Android 7.1.2 Nougat
- กล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมแฟลช LED ถ่ายวิดีโอ 1080P (30fps)
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟ Selfie Flash
- แบตเตอรี่ 2900 mAh (ถอดได้)
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- Wi-Fi 802.11 b/g/n
- Bluetooth 4.2
- มีวิทยุ FM
- พอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB 2.0, ช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- มีให้เลือก 4 สี (ดำ, ทอง, ดีปบลีน และ เชอรี่เรด)
Hand On ส่องรอบเครื่อง
ตัวเครื่องของ Wiko View วัสดุจะเป็นพลาสติก ตัวที่เราได้มาทดสอบนี้เป็นสีแดง เชอรี่เรด ที่เป็นแดงที่มีเหลือบเงาแบบเมทัลลิกเล็กน้อย ดูหรูหรา ด้านหน้าเป็นกระจกของข้างโค้ง 2.5D หน้าจอคือสิ่งที่น่าประทับใจมาก กับการเลือกใช้ขนาด 5.7 นิ้ว แบบอัตราส่วน 18:9 ที่จะมีพื้นที่ยาวกว่าแบบเดิมๆ ที่เป็น 16:9 ทำให้หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเต็มเกือบพื้นที่ด้านหน้า ด้านข้างเหลือขอบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนด้านบนก็จะมีเพียงแค่ ไฟแฟลชเซลฟี่, ลำโพงสนทนา และกล้องหน้า ส่วนด้านล่างก็โล่งๆ ไม่มีอะไร ปุ่ม Soft key เปลี่ยนไปใช้เป็นแบบ Onscreen แทน
ขนาดของเครื่องนั้นสามารถถือด้วยมือเดียวได้ถนัด ด้านข้างทางซ้าย จะมีปุ่มสำหรับปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power ที่มีทำ texture ให้สัมผัสที่แตกต่างจากปุ่มอื่น ด้านบนเครื่องมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ด้านล่างมีช่องไมค์สนทนา และพอร์ตแบบ Micro USB
ด้านหลังจะมีเลนส์กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่นูนออกมาจากตัวเครือ่งเล็กน้อย, ไฟแฟลชแบบ LED, เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และที่ด้านล่างจะมีช่องของลำโพงอยู่ ตัวนี้ฝาหลังจะเปิดได้ โดยแงะตรงฝั่งขวาด้านล่างของเครื่อง ที่ด้านในจะเป็นแบตเตอรี่ความจุ 2900 mAh และมีช่องสำหรับเสียบซิมได้ 2 ซิม (ขนาด Micro SIM) และมีช่องใส่เพิ่ม microSD รองรับได้สูงสุด 128GB
ส่องดูรอบเครื่องแล้ว การออกแบบดูเรียบๆ สวยงาม โดยเฉพาะด้านหน้าที่เป็นจอแบบ 18:9 และเป็นสีดำทั้งหมด เวลาที่ไม่ปิดเครื่องก็จะดูเป็นสีดำเรียบไปทั้งหมด และจอที่มีสัดส่วนยาวขึ้นนี้ก็มีประโยชน์ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังเพิ่มพื้นที่ในการใช้งานมากขึ้น เช่นเวลาท่องเว็บเข้าอินเทอร์เน็ต เล่น Facebook อ่านฟีดต่างๆ สามารถแสดงผลได้มากกว่าเดิม
ประสิทธิภาพ
ถึงแม้ว่าเครื่องจะทำราคาขายในตลาดกลุ่ม Budget Phone ที่ราคาไม่แพงมาก แต่สเปคเครื่องให้มาก็ถือว่าดีพอควร ตัวชิปเซตเลือกใช้เป็น Qualcom Snapdragon 425 Quad-Core 1.4GHz ใส่ RAM มาให้ 3GB ส่วนหน่วยความจำภายใน 16GB (เปิดมาเหลืออยู่ 11GB) สามารถใส่ microSD เพิ่มได้
ส่วนตัวรู้สึกพื้นที่ 16GB ให้มาน้อยไปนิดนึง ต้องหา microSD มาเพิ่ม ส่วน RAM 3GB ถือว่าเพียงพอสำหรับใช้งานทั่วไป เล่นเน็ต Social ถ่ายภาพแต่งรูป ฯลฯ ตัวเครื่องทดสอบผ่าน Antutu ได้คะแนน 36121
หน้าตา UI ของ Wiko View ก็จะทำออกมาเรียบๆ สวยงาม ปรับแต่งได้ตามสไตล์ของ Android มี App Drawer ที่แยกจากส่วนของ Home และปัดมาที่หน้าซ้ายสุด จะมีหน้ารวมฟีดข่าวและแอพที่ใช้งานบ่อยๆไว้ให้ด้วย
การใช้งานในแต่ละวันเรื่องของแบตเตอรี่ 2900 mAh ใช้งานตั้งแต่เช้าถึงเย็นในวันทำงาน ตกเย็นก็มีเหลือแบตเตอรี่ประมาณ 15-20% แต่ถ้าใช้งานหนักๆ ต่อเนื่อง, ถ่ายรูป แต่งรูป แบตเตอรี่จะใช้ต่อเนื่องได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง
ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจ
ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอพ : การที่หน้าจอปรับให้มีขนาดสัดส่วนใหญ่ 18:9 ทำให้ยาวขึ้น และเวลาที่แบ่งหน้าจอใช้งาน 2 แอพพร้อมกันก็สามารถแสดงผลให้เห็นได้เต็มตามากขึ้นด้วย อย่างในตัวอย่างนี้ จะแบ่งใช้งาน Facebook และเปิดเว็บบราวเซอร์ไปได้พร้อมกันโดยแบ่งจอใช้กันคนละครึ่ง
วิธีการเปิดใช้ 2 แอพพร้อมกัน ให้กดที่ปุ่ม Recent App (ปุ่มสี่เหลี่ยม) ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที แอพที่เปิดอยู่ปัจจุบันจะหดลงเหลือครึ่งจอ จากนั้นก็เลือกเปิดอีกแอพมาแสดงผลอีกครึ่งได้เลย ส่วนจะออกจากโหมดนี้ก็เลื่อนแถบขั้นตรงกลางออกมาที่ขอบจอ
ในโหมด 2 จอนี้ถือว่าสะดวกในการใช้งานพร้อมกันในบางครั้ง แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่นิดตรงที่ไม่สามารถปรับขนาดของหน้าจอได้ (แสดงผลเป็น 1:1) และยังมีหลายๆ แอพที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้
Android 7.1.2 : ตัวระบบปฎิบัติการ Wiko View ติดตั้งเป็นตัวล่าสุด (ในท้องตลาด) มาให้เลยคือ 7.1.2 Nougat ทำงานได้รวดเร็ว กินทรัพยากรเครื่องค่อนข้างน้อย แถมยังมีมี Google Assistant ผู้ช่วยแบบสั่งงานด้วยเสียง (ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะภาษาอังกฤษ)
สแกนลายนิ้วมือ : ถูกย้ายตัวเซนเซอร์มาไว้ที่ด้านหลัง จดจำได้ทั้งหมด 5 ลายนิ้วมือ สามารถตั้งไว้เพื่อใช้งานปลดล็อคเครื่อง (สแกนตอนที่หน้าจอปิดก็สามารถปลดเข้าสู่หน้าโฮมได้เลย) นอกจากนี้ ปุ่มสแกนลายนิ้วมือยังใช้งานอย่างอื่นได้อีก เช่น ใช้เข้าสู่แอพ Files Lock สำหรับเก็บไฟล์, ภาพ, เพลง และวิดีโอไว้เป็นความลับ และตั้ง Quick actions เพื่อเปิดแอพด่วนที่ตั้งไว้ หรือโทรหาเบอร์คนสนิทได้ทันที
Smart Action : โหมดคำสั่งลัดพิเศษ มีให้เลือกหลายอย่าง เช่น แตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกหน้าจอตอนที่ดับ, แตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อล็อคหน้าจอ, ปิดเสียงเรียกเข้าด้วยการพลิกเครื่อง, รับสายอัตโนมัติ ฯลฯ
Smart Gesture : วาดเป็นตัวอักษรที่หน้าจอเวลาที่จอดับ เพื่อเรียกเปิดแอพด่วนขึ้นมา เช่น วาดเป็นตัว O เพี่อเรียกล้องถ่ายภาพ วาดเป็นตัว M เพื่อเปิดแอพ Music แล้วก็สร้าง Gesture ลัดของตัวเองได้ด้วย
Screen Capture : นอกจากจะใช้การกดปุ่ม Power + ปุ่มลดระดับเสียงแล้ว ยังเลือใช้ Gesture พิเศษใช้ 3 นิ้วลากที่หน้าจอจากบนลงล่างเพื่อจับภาพก็ได้ และยังสั่งจับภาพแบบ Full page แบบลากยาวๆ ในหน้าเว็บเพจ หรือ Facebook ได้อีกด้วย
กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล
กล้องหลักของ Wiko View จะมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซูมออพติคอลได้ 4x ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียด 1080p (30fps) สำหรับการถ่ายภาพนิ่งจะมี Auto HDR ให้พร้อม Scene Mode เลือกปรับโทนสีของภาพแบบสำเร็จรูป
ใส่โหมดถ่ายภาพนั้นจะมี Super Pixel ที่จะถ่ายภาพความละเอียดได้ถึง 52 ล้านพิกเซล, Face Beauty ถ่ายภาพปรับหน้าสวยได้หลายระดับ, Professional เลือกปรับค่าต่างๆ ในการถ่ายได้เองทั้ง โทนสี, EV, ISO, White Balance, Focus และความคมชัด (แต่เลือกปรับความเร็วชัตเตอร์ไม่ได้), Panorama ถ่ายภาพแบบลากมุมกว้าง, Night ถ่ายภาพช็อตเวลากลางคืน, QR สำหรับใช้สแกน QR code, Time-Lapse ถ่ายภาพเคลื่อนไหวเร็ว และ Portrait ถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอ
โดยรวมถือว่ากล้องมีโหมดให้เลือกเยอะพอสมควร มีโหมดบิวตี้ปรับได้หลายระดับ และยังมี Portrait ที่ปรับฉากหลังให้เบลอได้ ซึ่งทำในระดับของซอฟท์แวร์ก็อาจจะไม่ถึงกับชัดเป๊ะมากในบริเวณขอบ ส่วนคุณภาพก็ถือว่าอยู่ในระดับพอใช้
กล้องหน้าเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช
Wiko View ดูจะทำออกมาเจาะกลุ่มคนชอบเซลฟี่เป็นพิเศษ เพราะให้ความละเอียดกล้องเยอะกว่ากล้องหลัง ให้มาถึง 16 ล้านพิกเซล แถมยังมีไฟแฟลช LED ด้านหน้ามาให้ด้วย และมี Auto HDR มาให้ด้วย ตัวชัตเตอร์มีแบบ Smile shot กดถ่ายให้เมื่อยิ้ม
โหมดในกล้องหน้าจะมี Portrait ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้เช่นกัน และในส่วนของ Beauty ก็มีให้ปรับได้อย่างละเอียดทั้งปรับหน้าใส, ขยายตา, หน้าเรียว เลือกได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ก็จะมีโหมด Panorama และ Time-Lapse ด้วยเช่นกัน
กล้องหน้าตัวรูรับแสงจะอยู่ที่ F/2.0 ที่ถือว่าอยู่ในระดับทั่วๆ ไป ถ่ายกลางวันสบายๆ แต่ถ้าเจอแสงน้อยก็อาจจะเจอกับ noise อยู่ ตัวไฟแฟลชถือว่าช่วยให้หน้าสว่างขึ้นได้ในระดับหนึ่ง
รีวิว Wiko View | สรุป โดยรวม เหมาะสำหรับใคร?
ในตลาดของ Budget Phone ที่เน้นเรื่อง ราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่ผ่านมาทาง Wiko เองก็จัดหนักมาให้โดยตลอด และในรุ่น Wiko View นี้ ถือว่าน่าสนใจตั้งแต่การใช้หน้าจอ 18:9 ที่ใหญ่ขึ้น โดยที่ตัวเครื่องไม่ใหญ่ขึ้นตาม ใช้งานได้ถนัดในมือเดียว เรื่องกล้องเองใช้งานพื้นฐานได้ครบ ถ่ายเซลฟี่มีให้สาวๆ ปรับแต่งได้
ตัวเครื่องงานประกอบเรียบร้อยปราณีต ถึงแม้จะเป็นพลาสติกแต่ก็ยังดูโอเค สเปคต่างๆ ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ใช้งานทั่วไปเล่นเน็ต Social โทรศัพท์ ฯลฯ ได้ไม่มีปัญหา เล่นเกมอาจจะเล่นเกม 3D หนักๆ ค่อนข้างลำบาก (แต่ลองเล่น ROV ก็ยังพอได้อยู่นะ) ตัว ROM ให้มาเล็กไปหน่อยแค่ 16GB ต้องหา microSD มาเสริมพื้นที่
ใครที่มองหา สมาร์ทโฟน ราคาไม่เกิน 5,000 บาท งบไม่เยอะแต่อยากได้เครื่องสวยๆ จอใหญ่ บริการหลังการขายดี Wiko View รุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจ หรือถ้าใครอยากได้จอใหญ่ขึ้น ก็มีเป็นรุ่น View XL ให้เลือก หรือสเปคแบบแรงขึ้นไปอีกก็จะเป็น View Prime
จุดเด่น
- เป็นสมาร์ทโฟนจอ 18:9 ที่ราคาถูกที่สุดในท้องตลาด (4,990 บาท)
- หน้าจอใหญ่ 5.7 นิ้ว แต่ขนาดความกว้างของเครื่องพอๆ กับเครื่องจอ 5.2 นิ้ว
- มีโหมดแบ่งหน้าจอเปิดใช้งานพร้อมกันได้ 2 แอพ
- ใส่ได้ 2 ซิม และใส่ microSD เพิ่มได้
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED
- มีโหมด Beauty และ Portrait ทั้งกล้องหน้าและหลัง
ข้อสังเกต
- หน่วยความจำในเครื่อง 16GB ให้มาน้อยไปนิด
- ไม่มีโหมด Dual Messenger สำหรับใช้งาน LINE, Facebook 2 ID ในเครื่องเดียว
- กล้องโหมด Pro ปรับความเร็วชัตเตอร์เองไม่ได้
- ฝาหลังแกะค่อนข้างยาก
- โหมด Face Beauty ไม่สามารถทำงานพร้อมกับ Portrait ได้