ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และมีมากถึง 1,300 ล้านคน แต่หมายเลข IPv4 ที่จีนมีอยู่ในครอบครองนั้นมีอยู่แค่ประมาณ 330 ล้านหมายเลขเท่านั้น ทำให้จีนประสบปัญหาขาดแคลน IPv4 และจำเป็นต้องย้ายไปใช้ IPv6 แทนโดยด่วนที่สุด เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นทุกวัน
ล่าสุดพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ประกาศแผนในการย้ายระบบเครือข่ายภายในประเทศไปใช้ IPv6 ทั้งหมด โดยตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี 2018 ประเทศจีนจะมีผู้ใช้ IPv6 อย่างต่ำ 200 ล้านคน และเพิ่มเป็น 500 ล้านคนในปี 2020 และจะเปลี่ยนไปใช้ IPv6 ทั้งหมดในปี 2025
IPv4 นั้นเป็นตัวเลข 8 บิตจำนวน 4 ชุดเรียงต่อกัน นั่นหมายความว่าโดยข้อจำกัดแล้ว IPv4 จะมีหมายเลขได้สูงสุดที่ประมาณ 4,200 ล้านเลขหมายเท่านั้น (0.0.0.0 ถึง 255.255.255.255) ซึ่งปัจจุบันที่ประชากรโลกเพิ่มมากขึ้น และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายก็มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้หมายเลข IPv4 เริ่มหมดลง และจำเป็นต้องนำเลขสำรองออกมาใช้งานแทน
ในขณะที่หมายเลข IPv6 นั้นมีขนาดใหญ่ถึง 128 บิต ทำให้สามารถมีหมายเลข IPv6 ได้สูงถึง 3.4 × 1038 หมายเลข
สำหรับประเทศไทยในตอนนี้ ข้อมูลจาก IPv6-Test.com ระบุว่าประเทศไทยมีอุปกรณ์ที่ใช้ IPv6 อยู่ทั้งสิ้น 36.1% และมีอุปกรณ์ที่ใช้ IPv4 อยู่ที่ 98.9% (โดยปกติเครื่องที่ใช้ IPv6 จะมี IPv4 อยู่ด้วย) โดยมี AIS Fibre เป็นผู้ให้บริการที่เปิดใช้ IPv6 มากที่สุด
อ้างอิง – Neowin