ในงานเปิดตัว Apple บอกว่า iPhone X นั้นใช้กระจกที่มีความทนทานที่สุดเท่าที่เคยมีใช้ในสมาร์ทโฟน แต่ทว่าในความเป็นจริง เมื่อ SquareTrade บริษัทที่ให้บริการเพิ่มการรับประกันให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ได้ทดสอบ Drop-test ดู ปรากฎว่า iPhone X กระจกแตก แหลกในทุกทิศทางการทดสอบ จนถึงขั้นยกให้เป็น “ไอโฟนที่แตกง่ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
iPhone X กระจกแตก มีค่าเปลี่ยนหน้าจอสูงถึง $279 และซ่อมจากการเสียหายอื่นๆ ที่ $549
ในคลิปของทาง SquareTrade ทดสอบนั้น ใช้ iPhone X ทั้งหมด 4 เครื่อง ครั้งแรกเป็นการปล่อยให้เครื่อง iPhone X หล่นจากความสูงระดับ 6 ฟุต กับพื้นซีเมนต์ โดยปล่อยให้กระแทกจากด้านข้าง ผลคือ หน้าจอ OLED ภายในได้รับการเสียหาย, ไม่สามารถกดสัมผัสได้ ตัวกระจกมีการแตกแยก พร้อมทั้งมีรอยขูดขีดที่ขอบกระจก
ในครั้งที่ 2 เป็นการปล่อยจากระยะความสูงที่ 6 ฟุตแต่ให้ตัวหน้าจอคว่ำลงกระแทกกับพื้น ผลปรากฎว่าย่อยยับมาก จอ OLED ขาดเป็นเส้น, ระบบ FaceID พังเสียหาย และกระจกแตกเกือบทั้งใบ
มาครั้งที่ 3 เป็นการปล่อยให้กระจกด้านหลังลงกระแทกพื้นซีเมนต์บ้าง สภาพคือ กระจกแตกร้าวทั้งแผ่น และสุดท้ายเป็นการทดสอบให้กลิ้งอยู่ในกรอบกล่อง 4 เหลี่ยม เป็นเวลา 60 วินาที ผลคือกระจกทั้งด้านหน้าและหลังแตกเสียหายทั้งหมด
ในเรื่องของการซ่อม ทาง SquareTrade ระบุว่ามีสายเคเบิ้ลจำนวนมากที่แกะออกได้ยาก ตัวแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาแยกเป็น 2 ส่วนก็ถอดยาก, บอร์ดมีขนาดเล็กซ่อมได้ยาก และหน้าจอ OLED ที่มีราคาค่าซ่อมสูง พร้อมสรุปให้ว่า “iPhone X เป็นไอโฟนที่มีราคาแพง, แตกเสียหายได้ง่าย และมีค่าซ่อมที่แพงที่สุดเท่าที่ Apple เคยผลิตออกมา”
ความเห็นจากทีมข่าว ล้ำหน้าโชว์
ส่วนตัวไม่ค่อยแปลกใจว่า iPhone X นั้นจะเปราะบางและแตกง่าย เพราะด้วยการออกแบบให้เป็นกระจกทั้งด้านหน้าและหลังนั้น การหล่นกระแทกพื้นถือว่ายากที่จะรอด แต่ในการทดสอบของ SquareTrade นี้อาจจะดูรุนแรงไป เพราะว่าปกแล้วคนเราถ้าจะทำโทรศัพท์หล่น ก็จะอยู่ในระดับจากกระเป๋ากางเกง หรือจากมือที่กำลังถืออยู่ ซึ่งจะอยู่ราวๆ 1.20-1.50 เมตรเท่านั้น ความสูงในการทดสอบที่ 6 ฟุต (ราวๆ เกือบ 2 เมตร) ดูแล้วก็เหมือนว่าจะสูงเกินไป
ข้อมูลจาก : Mac Rumors