ในงานเปิดตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าของเทสล่า Elon Musk ได้เซอร์ไพรซ์แขกในงานด้วยการเปิดตัวรถซูเปอร์คาร์สุดหรู “Roadster” รุ่นที่สอง ที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
Tesla Roadster รุ่นใหม่นี้เป็นรุ่นต่อจาก Roadster ที่เคยเปิดตัวไปเมื่อปี 2008 มีลักษณะเป็นรถยนต์สองที่นั่ง ที่สามารถแปลงเป็น 4 ที่นั่งได้ด้วย โดยในรุ่นใหม่นี้สามารถเร่งเครื่องตั้งแต่ 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ได้ใน 1.9 วินาที และสามารถเร่งถึง 100 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ได้ใน 4.2 วินาที
และหากใครอยากเอาไปแข่งแดร็ก Roadster รุ่นใหม่นี้สามารถวิ่งถึง 1/4 ไมล์ ได้ในเวลา 8.8 วินาทีเท่านั้น
Elon Musk กล่าวว่าเขาไม่ยืนยันว่า Roadster สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เท่าไหร่ แต่ใบ้ให้ว่าเกิน 250 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งความเร็วสูงสุดที่เป็นสถิติโลกอยู่ตอนนี้คือ 277.9 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 447 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยรถ Agera RS ของ Koenigsegg
แบตเตอรี่ของ Roadster รุ่นใหม่มีขนาด 200kwh สามารถวิ่งได้ไกลถึง 620 ไมล์ หรือประมาณ 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นั่นหมายความว่าสามารถขับรถจากกรุงเทพไปถึงเชียงใหม่ได้ในการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังเหลือแบตเตอรี่มากพอที่จะขับเที่ยวรอบเชียงใหม่ได้อีกประมาณ 320 กิโลเมตร!
Roadster จะมีราคาเริ่มต้นที่ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.5 ล้านบาทเท่านั้น โดยผู้สนใจจะต้องจ่ายมัดจำล่วงหน้าก่อน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท ทั้งนี้ Roadster จำนวน 1,000 คันแรกจะถูกผลิตออกมาในซีรี่ส์ผู้ก่อตั้ง (Founder Series) ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.2 ล้านบาท ซึ่งจะต้องจ่ายล่วงหน้าทั้งหมด
หาก Tesla สามารถผลิต Roadster รุ่นใหม่นี้ได้ตามสเป็คที่กล่าวอ้างจริงๆ ก็น่าจะทำให้ผู้ผลิตซูเปอร์คาร์รายต่างๆ ต้องรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กันอย่างแน่นอน โดยปัจจุบันนั้นรถซูเปอร์คาร์ที่มีสมรรถนะระดับเดียวกับ Roadster รุ่นใหม่นี้คือ P1 ของ McLaren, LaFerrari ของ Ferrari, และ 918 Spyder ของ Porsche ซึ่งมีราคาอยู่ที่ราว 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32 ล้านบาท
อ้างอิง – The Verge (1), The Verge (2)