สกุลเงินดิจิตัลอย่างบิตคอยน์ (Bitcoin – BTC) ยังคงทำมูลค่าสูงสุดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดมีมูลค่าสูงเกิน 11,500 ดออลาร์สหรัฐ หรือกว่า 370,000 บาทต่อ 1 BTC เข้าไปแล้ว (ณ ตอนที่เขียนนี้มูลค่าขึ้นไปถึงประมาณ 11,800 USD ต่อ 1 BTC แล้ว)
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบิตคอยน์มีราคาตกอย่างหนัก ก่อนที่จะพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 11,826.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 BTC เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง The Social Network ที่ว่าด้วยเรื่องราวของโซเชียลเน็ตเวิร์กชื่อดัง “Facebook” น่าจะคุ้นเคยกับชื่อฝาแฝด Cameron และ Tyler Winklevoss ที่เคยต่อสู้กับ Mark Zuckerberg ในเรื่องเครดิตเฟซบุ๊กกันมาก่อนแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 ฝาแฝด Winklevoss เคยเปิดเผยว่าพวกเขามีบิตคอยน์อยู่เป็นมูลค่ารวมถึง 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อคำนวนกับการเติบโตของบิตคอยน์แล้ว มูลค่าของบิตคอยน์ก้อนนี้จะมีมูลค่าเกินกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 32,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ฝาแฝด Winklevoss กลายเป็นเศรษฐีพันล้านจากบิตคอยน์คนแรกไปในทันที
โครงสร้างของบิตคอยน์นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ควบคุมโดยส่วนกลางได้ยาก กอปรกับปัจจุบันที่มีบิตคอยน์จำนวนมหาศาลที่สูญหายไปตามกาลเวลาเนื่องจากผู้ถือครองนั้นทำกุญแจถอดรหัสหาย ยิ่งทำให้มูลค่าของบิตคอยน์ทะยานตัวสูงขึ้นไปได้อีก
ทั้งนี้แม้ว่าบิตคอยน์ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกในอนาคต แต่ปัจจุบันสกุลเงินดิจิตอลสกุลอื่นเริ่มเติบโตขึ้นมาแข่งกับบิตคอยน์มากขึ้น ดังนั้นหากใครต้องการลงทุนกับบิตคอยน์ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องติดตามข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิตัลอื่นๆ อย่างใกล้ชิด
อ้างอิง – Business Insider