เผยชื่ออย่างเป็นทางการของ Android P แล้ว! นั่นคือ Android 9 Pie ใช้ชื่อง่ายๆ ด้วยขนมพายนี่ล่ะ โดยฟีเจอร์ใหม่ๆ นั้นจะทำงานได้ฉลาดมากขึ้นด้วย machine learning ที่เรียนรู้จากผู้ใช้และปรับแต่งให้ทำงานได้อย่างเหมาะสมกว่าเดิม
Android 9 Pie
ความเปลี่ยนแปลงหลักในระบบปฎิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดของปี 2018 นี้คือ การเอาระบบ Machine Learning มาใช้ถึงระดับคอร์ของระบบ ทำให้เกิดฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การใช้งานทุกอย่างบนสมาร์ทโฟนดีขึ้น ตั้งแต่เรื่องการใช้พลังงานแบตเตอรี่, การจัดการแอปพลิเคชั่นต่างๆ โดยจะมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจหลายตัวด้วยกัน เช่น
- Adaptive Battery ที่ทางกูเกิ้ลได้ทำงานร่วมกับทาง DeepMind ที่จะวิเคราะห์จากการใช้งานของผู้ใช้ ทำให้จัดการเรื่องใช้พลังงานของเครื่องได้ดีขึ้น
- Slice ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการคำสั่งต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ด้วยหน้าตา UI ที่ตอบสนองการใช้งานได้ทันที
- App Actions ฉลาดขึ้นด้วยการเสนอคำสั่งสำหรับการเลือกของผู้ใช้ อย่างเช่นเลือกข้อความชื่อ Taylor Swift จะมีคำสั่งให้ไปเปิดเพลงใน Spotify ได้ทันที
- Text Classifier ตัว API ใหม่ที่ให้ระบบ Machine Learning ช่วยตอบสนองในการกรอกเนื้อหาหรือตัวหนังสือ ที่มีการคาดเดาและเสนอคำสั่งที่เหมาะให้ทันที
- Smart Linkify ระบบเสนอ Option ทางเลือกในข้อความต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด
เรื่องของหน้าตา Interface การแสดงผล และการควบคุมบน Android 9 ก็มีการปรับปรุงในหลายส่วนด้วยเช่นกัน
- ออกแบบหน้าตาระบบควบคุม system navigation ใหม่ ที่ให้ผู้ใช้ลากนิ้วจากด้านล่างของจอที่หน้าไหนก็ได้ เพื่อเรียกตัว Recent app ขึ้นมาได้ทันที
- รองรับการแสดงผลหน้าจอที่มีการตัดออก ที่เป็นลักษณะ Notch ด้านบน เพื่อแสดงผลบน Status bar และการแสดงผลแบบเต็มจอที่ดีขึ้น
- การแจ้งเตือนที่แสดงรายละเอียดได้มากขึ้น อย่างเช่นแอปแชท การแจ้งเตือนนอกจากข้อความแล้ว ยังแสดงผลภาพที่แนบมาหรือสติกเกอร์ที่ส่งมาได้ และยังช่วยคาดเดาและเลือการตอบกลับที่เหมาะสมให้เรา
- การแสดงขยายตัวหนังสือเวลาที่เลือกข้อความ ที่ขยายใหญ่ขึ้น และให้มองเห็นชัดขึ้นเวลาที่ลากเลือกข้อความ
นอกจากนี้ยังมีเพิ่มประสิทธิภาพด้านการรักษาความปลอดภัยของเครื่อง เช่น Biometric prompt, Protected Confirmation, ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฯลฯ
ด้านมัลติมีเดีย ระบบรองรับการทำงานร่วมกับกล้องแบบ Multi-camera หรือกล้องหลายๆ ตัวได้, รองรับ วิดีโอแบบ HDR VP9 และฟอร์แมตบีบอัดภาพแบบ HEIF ส่วนระบบของเสียงก็มีช่วยเรื่อง Dynamics Processing ให้ดียิ่งขึ้น
เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ มีเพิ่มความสามารถกำหนดพิกัดผ่าน Wi-Fi RTT เพื่อใช้นำทางในอาคาร, และเปิดตัว Open Mobile API สำหรับการชำระเงินผ่าน NFC ให้กับผู้พัฒนาเพื่อนำไปใช้เพิ่มความปลอดภัยด้านการชำระเงิน
ยังมีความสามารถใหม่ๆ ของ ANDROID 9 PIE ที่เปิดเผยออกมา โดยที่จะเริ่มปล่อยอัพเดทแบบ OTA แล้วตั้งแต่วันนี้ (6 สิงหาคม) สำหรับเครื่องที่เข้าร่วมในการทดสอบช่วง Beta ก่อนหน้านี้ ได้แก่สมาร์ทโฟนตระกูล Pixel ของ Google และอีกหลายรุ่นของ Sony, Nokia, Xiaomi, OPPO, Vivo, OnePlus และ Essential (ดูรายชื่อได้ที่นี่)
ส่วนสมาร์ทโฟนที่เป็นระบบ Android One ก็จะเริ่มทยอยได้รับการอัพเดทภายในช่วงก่อนจบฤดูใบไม้ร่วง (ก่อนพฤศจิกายน)
ส่วนสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ให้รอดูการแจ้งจากทางผู้ผลิต ซึ่งตอนนี้ทาง Google ได้ประสานงานกับแบรนด์ต่างๆ ที่จะเปิดตัวรุ่นใหม่ที่เป็น Android 9 Pie ภายในปี 2018 และเร่งผลักดันให้มีการอัพเดทกับรุ่นเก่าให้เร็วที่สุด
ข้อมูลจาก : Android Developer Blog