สำหรับงาน Public RelationSHIFT : Digital PR ปรับให้ทันวันโลกเปลี่ยนนี้ ถูกจัดขึ้นเพื่ออัปเดตเทรนด์ และเสนอแนะแง่มุมใหม่ ๆสำหรับการทำงานประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน ครอบคลุมทั้งทางด้านทิศทาง การวางกลยุทธ์ การสร้างคอนเทนต์ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รัก ตลอดจนการรับมือเพื่อปรับตัวขององค์กรต่าง ๆ ในยุคดิจิทัล ซึ่งทั้งหมดก็มีอยู่ 7 หัวข้อด้วยกัน แต่ทางเราจะขอสรุปให้ได้อ่านกันคร่าว ๆ เป็น 6 ประเด็นดังนี้
#1 WHY PR NEED TO SHIFT?
ในส่วนของหัวข้อแรกที่เปิดประเด็นกันมานี้ก็เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่นัก PR หลาย ๆ ท่านคงจะเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองกันมาแล้ว ว่าในยุคที่การสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีช่องทาง (Channel) กับแพลตฟอร์มออนไลน์ (Platform) เกิดใหม่ขึ้นมารองรับการใช้งานของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ข่าวสารเดินทางได้ไวและเข้าถึงง่ายขึ้น การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเทคโนโลยีด้านพฤติกรรมผู้บริโภคและเทรนด์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าถามว่า Press Release ยังสำคัญอยู่ไหม? คำตอบคือ ยังสำคัญอยู่มาก แต่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนจากแนวทางการทำงานเดิม ๆ ที่ใส่ทุกอย่างใน content เดียวมาเป็นการแตกย่อยแต่ละหัวข้อในคอนเทนต์เพิ่อสร้างความน่าสนใจให้กับผู้บริโภคคอยติดตาม
#2 Strategic Thinking in PR
สำหรับยุคนี้นี้หาก PR จะเลือกใช้ช่องทางแต่ Paid Media เอางบฟาดให้ได้ครอบครองพื้นที่สื่อดัง ๆ เพื่อให้คอนเทนต์ของตัวเองไปปรากฏตรงหน้าผู้บริโภค ธุรกิจหรือองค์กรนั้น ๆ ก็คงจะอยู่ยากขึ้น เพราะเรื่องของความสนใจมันก็ใช้เงินเข้าข่มไม่ได้จริงๆ ยิ่งในปัจจุบันที่ปัจจัยการเสพสื่อต่าง ๆ ไม่ได้มีน้อยเหมือนสมัยก่อนแล้ว ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และแน่นอนว่าการจ้าง Media หรือ Celebrity ให้โปรโมทให้จึงกลายเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคดูจะไม่ค่อยเชื่อถืออีกต่อไป เพราะรู้ว่าเป็นการจ้างมา ฉะนั้นเราจึงจำเป็นจะต้องมี Own Media หรือ ชาแนลเป็นของตัวเองเอาไว้ร่วมด้วยช่วยกัน เพราะเป็นสื่อที่เราควบคุมและจัดการได้โดยไม่ตกในเงื่อนไขของเจ้าของสื่อ (ก็เราเป็นเจ้าของเอง) สื่อเหล่านี้เช่น Website ของแบรนด์เอง Facebook / Twitter / Instagram ของแบรนด์ ส่วน Earn Media นั้น คือสื่อที่เกิดขึ้นจากการที่สื่ออื่นๆ ที่ไม่ใช่ของเรานำคอนเทต์ของเราไปโปรโมตหรือเอาไปสื่อสารให้แบรนด์โดยความปรารถนาของเจ้าของสื่อเอง เช่น คนทั่วไปแชร์คอนเทต์ของแบรนด์ รายการทีวีเอาคลิปของแบรนด์ไปออกอากาศ ฯลฯ ทำให้เกิดการแพร่ขยายเป็นวงกว้างโดยไม่ต้องใช้เงินแลกมาซึ่งยอดการแชร์
ว่าง่าย ๆ คือ Paid-Own-Earn Media ที่ดีนั้นจะต้องเกิดจากการที่เราพิจารณาก่อนว่าจะต้องใช้ channel ไหนบ้างเพื่อให้เหมาะสมกับแบรนด์หรือ Business ของเรา และเมื่อเลือกช่องทางได้แล้วเราก็จะวาง Object ในการทำงานง่ายขึ้นชัดเจนขึ้น ส่วน Earned media เราควรจะศึกษาตัว influencer ให้ชัดเจนก่อนว่าเค้ามีอะไรที่ตรงกับแบรนด์ของเราบ้างจากนั้นค่อยสร้าง relationship กันต่อไปตามลำดับ ส่วนการ earned ก็ยังมีหลายระดับ เราต้องดูว่าเกิดการ earn ระดับไหน พาดหัวข้ออย่างไร พูดถึงแนวไหน ผ่านช่องทางไหน มีโทนอย่างไร กลุ่มเป้าหมายมี Feedback อย่างไร พอมีการวัดที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นการวางแผนงานถัดไปก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วย
3 #What is the right Measurement?
สำหรับในส่วนของการวัดผล PR ในยุคสมัยนี้จะยึดการวัดผลแบบเดิม ๆ ด้วย PR Value ก็ดูจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว เพราะการที่จะได้มาซึ่ง PR Value สูงๆ สมัยนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ารู้จักสื่อดัง ๆ มากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญที่สุด อยู่ที่การสร้าง Content ปัง ๆ ให้สื่อหันมาสนใจและเชื่อถือ ยิ่งสร้างความน่าสนใจและน่าเชื่อถือของข้อมูลที่นำเสนอได้มากเท่าไหร่ สื่อก็ยิ่งนำไปเสนอให้มากเท่านั้น ทั้งจำนวนสื่อ พื้นที่ข่าว และเวลานำเสนอ นี่คือวิธีการได้มาซึ่งมูลค่าของ PR Value ที่เอามาใช้วัดผลงานของ PR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4#The Future of Influencer Marketing
Influencer ค่อนข้างมีบทบาทที่สำคัญในการสื่อสารในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นในมุมของโฆษณาหรือ PR ก็ตาม ซึ่งจากข้อมูลของ Ad Leaderboard จาก Youtube โฆษณาที่ติด 1 ใน 10 ส่วนใหญ่จะเป็นโฆษณาที่มีการใช้ Influencer เข้ามามีบทบาทมากขึ้นกว่าเซเลบริตี้ เนื่องจากไมโครอินฟลูเอนเซอสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่า มีความ Real กว่าคนมีชื่อเสียง ผู้บริโภคจึงรู้สึกว่าน่าเชื่อถือกว่าและด้วยความที่ Influencer มีมากขึ้น สมัยนี้แบรนด์จึงไม่ได้เลือก Influencer จากตัวเลขเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเลขไม่สำคัญนะ ยังมีความสำคัญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นยอด Follower หรือ Engagement ต่างๆ ในการนำไปเสนอเพื่อให้ทางทีม approve แต่มากไปกว่านั้นสิ่งที่ตอนนี้แบรนด์จะดูอีกคืออีกหลายๆ ส่วนเช่น ลักษณะสไตล์การเขียนของ Influencer , กลุ่มเป้าหมายของ Influencer และความสอดคล้องและเหมาะสมระหว่างสไตล์ Influencer และสินค้าบริการอีกด้วย
5#Is Content Marketing Just A Hype ?
ในยุคของโลกดิจิทัล ข้อมูลข่าวสารที่ทำออกมาในรูปแบบของ Content ที่น่าสนใจนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องจำเป็น ถึงแม้จะเป็นกระแสแต่ก็สามารถช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสนใจเพิ่มเป็นวงกว้างขึ้น สิ่งที่สื่อต้องการ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทนั้นเล็กหรือใหญ่ ใหม่หรือเก่า
หรือรู้จักและสนิทสนมกับสื่อมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้า Content ที่สร้างขึ้นไม่น่าสนใจ ต่อให้รู้จักสื่อมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะผู้บริโภคจะมีวิจารณญาณในการเลือกในการเสพ ถ้า Content ไม่น่าสนใจ ผู้บริโภกก็มีสิทธิ์เลือกที่จะสนใจหรือไม่สนใจก็ได้ นั่นก็เท่ากับว่าการทำประชาสัมพันธ์สูญเปล่า
#6 SEO Still Important or Not Anymore ?
อย่างที่ทราบกันดีว่าอัลกอรึธึมของ Google เองได้มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา และเราเชื่อว่าในอนาคตข้างหน้าก็จะเพิ่มความฉลาดมากยิ่งขึ้นอีกไปเรื่อยๆ และแน่นอนว่าอาจจะเก่งจนถึงขั้นทำความเข้าใจ กับความหมายของประโยคต่างๆที่เราใช้ในการเขียนเนื้อหาได้ การเขียนบทความโดยมีการแทรก Keyword เข้าไปในบทความเพียงอย่างเดียวก็คงจะไม่เพียงพออีกต่อไป
ฉะนั้นแล้วบทความใดๆที่สร้างประโยชน์ต่อผู้อ่านแล้ว มันก็จะกลายเป็นที่โปรดปรานของ Google ไปด้วย การที่จะมุ่งความสนใจกับเนื้อหาของเว็บไซต์ ด้วยการสร้างประโยชน์ต่อผู้ที่จะเข้ามาหาบางอย่างจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO เพื่อให้ผู้คนสามารถค้นหาเราเจอได้ง่ายขึ้น แม้จะเป็นเรื่องของทางเทคนิคก็ควรศึกษาเอาไว้เพื่อใช้ในการวางแผนผลิตคอนเทนต์ที่ดีต่อไป
ความคิดเห็นจากทีมงานล้ำหน้าโชว์
ในยุคที่การเสพสื่อเปลี่ยนไป เราเองในฐานะคนทำงานในสายงานดิจิทัลก็ควรจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานตามกระแสที่มันหมุนไปอย่างรวดเร็วให้ทัน การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เราเองก็ควรต้องยอมรับและหันมาศึกษาเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับปรับตัวให้สามารถยืนอยู่ในสถาณการณ์ได้ทุกรูปแบบเพื่อผลิตคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ออกมาสู่ตลาดให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจเลือกจากความโดดเด่นที่สรรค์สร้างแต่ละชิ้นงานขึ้นมา