รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า คนๆนี้ เป็นบุคคลชื่อดังคนนึงในไต้หวันเลยทีเดียว ซึ่งประวัติของเค้าก็ถือว่า ใช้ได้เลย เช่น วีรกรรมที่ถูกผู้ให้บริการรถประจำทางในประเทศฟ้องร้อง จากการแฮคเข้าระบบ เพื่อฉกตั๋วรถในราคาแค่เพียง 1 ไต้หวันดอลล่าร์เท่านั้น (ประมาณ 1 บาทกว่าๆครับ แหม่)
ต้นเดือนกันยายน เค้ายังมีวีรกรรม โดยการโชว์หน้าจอของช่องโหว่ของระบบ Apple Pay ที่เปิดให้เค้าจ่ายเงินเพียง 1 ไต้หวันดอลล่าร์ เพื่อซื้อ iPhone 500 เครื่อง ซึ่งประวัติของเค้าก็มีการโจมตี Tesla อีก
ด้วยความเก่งเรื่องการแฮคและเจาะทะลุระบบ เค้าติดอยู่ใน Hall of Fame 2016 ของ LINE Security Bug Bounty Program
เค้าได้เผยความรู้สึกผ่านโพสต์ล่าสุดของเค้าว่า จริงๆแล้ว เค้าเองก็ไม่ได้อยากเป็นแฮคเกอร์เลย เค้าเบื่อ และทำเล่นๆไปงั้น เพื่อจะหาเงินใช้ เช่น ชี้ช่องโหว่ระบบให้กับบริษัทใหญ่ๆ เช่น Facebook ก็ถือว่าเป็นความท้าทายดี แต่ เมื่อดูจากประวัติของ Facebook อีกทั้งประเด็นต่างๆที่ Facebook ประสบ เค้าเลยตัดสินใจไม่เสี่ยงที่จะดีลกับบริษัทยักษ์ใหญ่นี้
เอาจริงๆ Facebook เองก็ไม่ได้ยินดีจะจ่ายให้กับคนที่อาสาจะหาช่องโหว่ระบบให้บริษัทฯ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 ทาง Facebook ก็ปฏิเสธจะให้รางวัลแก่ Khalil Shreateh ผู้เชียวชาญด้านระบบจากปาเลสไตน์ ผู้ซึ่งแฮคเข้าไปยังบัญชีของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ได้แล้วทำการโพสต์ มิวสิควิดีโอของนักร้อง Enrique Iglesias บน Wall ของเพื่อนพี่มาร์คคนหนึ่ง แถมผู้ก่อตั้ง Facebook ก็ยังเคยโดนเจาะทั้ง Twitter และ Pinterest โดยกลุ่มแฮคเกอร์ ชื่อ OurMine
