Oculus เปิดตัว Oculus Quest ที่สเปคแรงคล้าย Oculus Rift แต่ไร้สาย

27 กันยายน 2018

หนึ่งในข้อจำกัดที่แว่น VR ต้องเผชิญคือ เรื่องการเสียบสายระโยงระยาง ซึ่ง ดูเกะกะ และ ไม่คล่องตัว

แต่มันก็มีเหตุผลของมันอยู่ว่า ทำไมมันถึงต้องเสียบสาย … เพราะว่า แว่น VR จำเป็นต้องพึ่งพา PC ในการประมวลผล

คำถามต่อมา คือ … แล้วทำ แว่น VR แบบที่ไม่ต้องเสียบสายได้มั้ย?

ได้ครับ แต่ … มันก็ต้องแลกความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้น กับ ประสิทธิภาพที่ลดลง เช่น Samsung Gear VR เป็นต้น (หากเทียบกับ VR ที่เชื่อมต่อเข้ากับ PC)

ซึ่ง Oculus ที่บุกเบิกการทำเกี่ยวกับ VR อยู่แล้ว ก็ทราบถึงประเด็นที่เป็นปัญหานี้ดีและหาทางแก้ไข

การเปิดตัว Oculus Go เมื่อเดือนตุลาคม 2017 นั้นก็ดูจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก เพราะ หากดูจากสเปค มันมาพร้อมกับ Android Snapdragon 821 ซึ่งมันก็คือสเปคมือถือปกติทั่วไป คล้าย Oculus ออก product ตัวนี้มาคั่นเวลาเฉยๆ

อย่างไรก็ตาม Oculus ก็ไม่ยอมแพ้ที่จะทำ VR ไร้สาย ที่สเปคแรง ให้ได้ … มันจึงเกิดโปรเจคที่ชื่อ Project Santa Cruz

ซึ่งโปรเจคนี้เอง ก็นำมาซึ่ง VR ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง … Oculus Quest

จุดขายของ Oculus Quest

เป็นการนำข้อเด่นของ VR 2 ระบบมารวมไว้ด้วยกัน (ทั้งแบบไร้สาย และ มีสาย) ไว้ด้วยกัน
เป็น VR แบบไร้สาย มีระบบ internal tracking ที่มีเซนเซอร์ภายใน ในการติดตามตำแหน่ง (ผู้ใช้งานเคลื่อนไหวได้จากอิสระ)
ประสิทธิภาพของแว่น VR นั้นใกล้เคียงกับ VR แบบมีสายที่เชื่อมต่อกับ PC
เล่นเกมของ Oculus Rift ได้ แบบไร้ปัญหา

สเปคของ Oculus Quest (เท่าที่ทางบริษัทเปิดเผยข้อมูลออกมา)

หน้าจอมีความละเอียด 1600 x 1440 ต่อข้าง
ใช้เลนส์ตัวเดียวกับ Oculus Go
จะมาพร้อมกับระบบเสียงในตัว ซึ่งอยู่ในสายคาดหัว (จะคล้ายกับ Oculus Go แต่ปรับปรุงให้ดีขึ้น)
ความจุ 64 GB
ตัวเซนเซอร์ ชื่อ Oculus Insight มีเซนเซอร์ 4 ตัวติดอยู่ที่มุมแว่น
รองรับการเคลื่อนไหว 6 มิติ หรือ 6DOF (six degrees of freedom) ได้แก่
- หน้า
- หลัง
- ซ้าย
- ขวา
- บน
- ล่าง