ทางทำเนียบขาวต้องการจะปลดล็อคความกังวลของบริษัทเทคโนโลยีต่างๆเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของประเทศจีน และคงมีการสรุปผลเกี่ยวกับประเด็นนี้เร็วๆนี้
ทางสำนักข่าวรอยเตอร์และเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า ทางทีมบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีแผนจะประกาศเรื่องเกี่ยวกับภาษีศุลกากรสินค้าจากประเทศจีนอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้ (ไม่น่าเกิน 17-18 กันยายน 2018)
ดูเหมือนว่าการนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต เซอร์กิตบอร์ด แผงวงจร และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ จากประเทศจีนนั้นมีแนวโน้มที่จะแพงขึ้นมาก แม้อัตราภาษีฯจะตั้งไว้ที่ 10% (ซึ่งต่ำกว่าที่ทางการสหรัฐตั้งเป้าไว้เดิม คือ 25%)
ทางการสหรัฐฯอาจต้องลดอัตราภาษีศุลกากรลงอีก เพื่อลดโอกาสที่บริษัทต่างๆจะขึ้นราคาขาย ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นได้อีก
ก่อนหน้านี้ ภาษีศุลกากรเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทางสหรัฐฯใช้กดดันทางจีนเกี่ยวกับนโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงความพยายามที่จะแทรกแซง เข้าซื้อเทคโนโลยีจากฝั่ง US และการช่วยเหลือเงินทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีสาขาอื่นๆ เช่น หุ่นยนต์ และ AI เป็นต้น
นี่เอง อาจเป็นสัญญาณของทั้ง 2 ฝั่งที่จะหารือกัน เพื่อที่จะลด หรือ ยุติ สงครามการค้าได้ แต่ดูแล้ว ทางนายโดนัลด์ ทรัมป์ เองก็วัยรุ่นใจร้อน คงรอไม่ไหว และอยากเจรจาให้จบๆก่อนการกำหนดภาษีศุลกากรใหม่จะมีขึ้น
ทรัมป์ ได้เรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตต่างๆ ผลิตสินค้าของตัวเองภายในสหรัฐอเมริกามากขึ้น แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้ง่ายเลย เช่น การตั้งโรงงานเพื่อผลิตสินค้าใหม่ในประเทศ
ซึ่งเหตุผลต่างๆที่ ผู้บริษัทผู้ผลิตต่างๆเลือกสั่งซื้อสินค้าจากประเทศจีนนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องอัตราต้นทุนแรงงานที่ต่ำ แต่ยังมีอีกหลายปัจจัย เช่น เรื่องทักษะของแรงงาน เรื่องทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตที่มีในภูมิภาคนั้น
การจะให้สินค้าต่างๆผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาเลย คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนั่นอาจส่งผลระยะยาวต่อเรื่องภาษีศุลการกรด้วย