บทความสัมภาษณ์พิเศษ โดย Phil Schiller ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Engadget แบบจัดเต็ม
ใจความหลักๆของการสัมภาษณ์จะเป็นการพูดถึง iPhone รุ่นใหม่อย่าง iPhone XR ที่เพิ่งเปิดให้จองในวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทำไมต้อง iPhone XR . . . ‘ R ‘ หมายถึงอะไร?
แน่นอนว่า iPhone รุ่นก่อนๆที่ผ่านๆมานั้น ทาง Apple เองก็ไม่ได้กำหนดตัวอักษรที่ตายตัวว่า แต่ละรุ่น ควรจะต้องใช้อักษรอะไร
“I love cars and things that go fast, and R and S are both letters used to denote sport cars that are really extra special”
แต่สำหรับตัวอักษร ‘R’ หรือ ‘S’ ใน iPhone รุ่นใหม่นั้น ที่มาจะมาจากการที่ Schiller เป็นคนชอบรถสปอร์ต หรือ อะไรก็ตามที่เคลื่อนที่เร็ว การใส่ตัวอักษร ตัว ‘R’ หรือ ตัว ‘S’ เข้าไป มันก็เหมือนการใส่รุ่นรถสปอร์ตที่สะท้อนถึงความเร็วของรถนั่นเอง
อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ ความละเอียดหน้าจอของ iPhone XR นั่นเอง
อย่างที่รู้ๆกันว่า ความละเอียดหน้าของ iPhone XR นั้น
- มีความละเอียด 1792×828 พิกเซล
- รองรับการแสดงผลสูงสุดที่ 720p
- เป็นหน้าจอ LCD
ซึ่งก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยว่า ทำไมถึงต้อง ‘ลดสเปค‘ หรือ ‘ตัดสเปค‘ ด้วยล่ะ?
“I think the only way to judge a display is to look at it. If you can’t see the pixels, at some point the numbers don’t mean anything. They’re fairly arbitrary.”
ทาง Schiller ชี้แจงว่า เค้าไม่ได้มองว่ามันเป็นการลดสเปคแต่อย่างใด เรื่องการตัดสินคุณภาพของหน้าจอนั้น ควรจะใช้สายตาเป็นตัวตัดสิน เพราะ สายตาของมนุษย์เรา มองไม่ละเอียดทุกพิกเซลแน่นอน
ดังนั้น เมื่อได้ใช้งานไปถึงจุดหนึ่ง ตัวเลขที่บ่งบอกสเปคก็ไม่น่าจะใช่ประเด็นอะไร
เค้าได้ทิ้งท้ายว่า ทาง Apple ไม่ได้มีการเจาะจงว่ากลุ่มเป้าหมายของ iPhone XR นั้นเป็นประเทศไหน หรือ ภูมิภาคใดเป็นพิเศษ
“We don’t think about categories. We think the iPhone X technology and experience is something really wonderful, and we want to get it to as many people as possible, and we want to do it in a way that still makes it the best phone.”
แต่ทางบริษัทฯอยากนำเสนอและส่งมอบ เทคโนโลยี แลพะ ประสบการณ์ iPhone X ไปสู่กลุ่มลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น และเข้าถึงผู้คนจำนวนมากที่สุด เท่าที่จะมากได้
และ มีความปรารถนาที่แรงกล้าที่จะทำให้มันเป็นโทรศัพท์ที่ดีที่สุด
