Minor Tasting The Future

Minor Tasting The Future Hackathon 2018 ผลักดัน Food Tech ไทย สู่ครัวโลก

ไมเนอร์กรุ๊ป จับมือ ดิสรัปท์ เทคโนโลยี เวนเจอร์ และ 500 TukTuks จัด Minor Tasting The Future – Hackathon 2018 ประกาศรับสมัครนักพัฒนานวัตกรรมทั่วประเทศ ร่วมประชันไอเดียในงาน แฮกกาธอน (Hackathon) ทางด้านอาหารและธุรกิจร้านอาหารตั้งแต่วันนี้ ถึง 9 พฤศจิกายน 2561

Minor Tasting The Future – Hackathon 2018 วันที่ 1 – 2 ธันวาคมนี้

ทีมที่ได้รับการคัดเลือกจะได้มีโอกาสเรียนรู้ และได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษามืออาชีพ ระดับแถวหน้า อาทิ 

  • วิลเลี่ยม ไฮเน็ค ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
  • กระทิง พูนผล Managing Partner ของ 500 TukTuks และ Founder ของ ดิสรัปท์ เทคโนโลยี เวนเจอร์
  • ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ผู้ก่อตั้ง บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด (Wongnai)
  • ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ผู้ก่อตั้ง บริษัท อุ๊คบี จำกัด (Ookbee)

สำหรับทีมผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท โดยรองชนะเลิศอันดับที่ 1 และที่ 2 จะได้รับเงินรางวัล 70,000 บาท และ 50,000 บาท ตามลำดับ รวมทั้งยังจะได้รับโอกาสการสนับสนุนในระยะยาวจากไมเนอร์กรุ๊ป และ 500 TukTuks เพื่อร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพ Food and Dining Tech ในการร่วมเปลี่ยนภาพธุรกิจอาหาร และธุรกิจค้าปลีกอาหาร เพื่อรองรับความต้องการด้านอาหารของคนไทยในอีก 50 ปีข้างหน้า มั่นใจประเทศไทยคือครัวของโลก ที่มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมด้านอาหาร และค้าปลีกอาหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชี้ธุรกิจอาหารมีศักยภาพเป็นยูนิคอนแรกของไทย ตั้งเป้าลงทุนกว่า หนึ่งร้อยล้านบาทภายในปี 2562

Minor Tasting The Future

นายวิลเลี่ยม ไฮเน็ค ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สภาพแวดล้อมทางธุรกิจในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มากกว่าการเปลี่ยนแปลงในช่วง 50 ปีที่แล้ว รวมทั้งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เราจึงต้องมีการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับดิสรัปท์เทอร์ (Disruptor) ที่จะเข้ามามีผลกระทบกับธุรกิจของเรา รวมถึงยังมีการจับมือกับนักพัฒนานวัตกรรมและดิสรัปท์เทอร์ เพื่อค้นหาแนวทางในการช่วยสร้างการเจริญเติบโตและสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจของเรา

ในปัจจุบันโลกกำลังเดินหน้าไปอย่างรวดเร็วซึ่งเราสามารถเลือกที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง หรือเลือกที่จะหยุดแล้วยอมให้อุปสรรคเข้ามาขวางกั้น อีกทั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ กำลังเข้ามาเปลี่ยนวิธีในการดำเนินธุรกิจ เปลี่ยนวิถีการจับจ่ายของผู้บริโภค รวมถึงวิธีการแสดงความคิดเห็นและการถ่ายทอดประสบการณ์ต่าง ๆ ดังนั้นการทำธุรกิจในปัจจุบันจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขันระหว่างบริษัทอีกต่อไป แต่เป็นการแข่งขันกันในด้านของนโยบาย และระบบความสัมพันธ์ต่อสิ่งแวดล้อม เราจึงเชื่อว่าธุรกิจที่จะอยู่รอดจะต้องมีนวัตกรรมที่ดีและปรับตัวได้เร็วที่สุด จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะมุ่งหน้าสานต่อธุรกิจให้ก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อนำหน้าคู่แข่ง

เพื่อสานต่อการดำเนินธุรกิจในอีก 50 ปีข้างหน้า ไมเนอร์กรุ๊ปยังได้เปิดรับพันธมิตรใหม่ ๆ อาทิ นักพัฒนานวัตกรรมและดิสรัปท์เทอร์ ที่มีมุมมองสดใหม่ พ่วงด้วยความคิดแหวกแนว และกล้าที่จะทำตามวิสัยทัศน์ เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ของเราให้เกิดเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ เราพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขาเหล่านั้นเพื่อนำทางไปสู่หลักเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Economy) และเราพร้อมที่จะสนับสนุน และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ เพื่อส่งเสริมและเกื้อหนุนความคิดใหม่ ๆ เหล่านั้นมาสู่การปฏิบัติได้อย่างยั่งยืน และด้วยธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ของไมเนอร์กรุ๊ปที่ประกอบขึ้นจากหลากหลายหน่วยธุรกิจ เราจึงเชื่อว่าการสนับสนุนนี้จะช่วยเสริมสร้างโอกาสอันล้ำค่านี้ผ่านการช่วยเหลือด้านทดลอง เพื่อทำให้ไอเดียที่เกิดขึ้นมีผลเอาไปปฏิบัติได้จริง ในทำนองเดียวกันเราก็พร้อมที่จะเรียนรู้และน้อมรับไอเดียด้านนวัตกรรมต่าง ๆ ที่จะมาช่วยสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจของเราเช่นกัน เราจึงเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ระหว่างไมเนอร์กรุ๊ป และกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีความคล่องตัวจะช่วยเกื้อหนุนและนำมาซึ่งความสำเร็จให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งยังช่วยผลักดันให้ธุรกิจของเราขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างแท้จริง”  

ด้าน นายกระทิง พูลผล Managing Partner ของ 500 TukTuks และผู้ก่อตั้ง ดิสรัปท์ เทคโนโลยี เวนเจอร์ กล่าวว่า “โลกของเรากำลังก้าวเปลี่ยนผ่านจากยุค ดิจิทัล ดิสรัปท์ชั่น (Digital Disruption) เข้าสู่ยุค ดีพเทค ดิสรัปท์ชั่น (Deep Tech Disruption) โดยเทคโนโลยีดีพเทคนั้น เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทต่อโลกในยุคปัจจุบัน ต่อจากเทคโนโลยีดิจิทัล และจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตประจำวันอย่างแยกไม่ออก ในส่วนของระบบดีพเทคนั้น ฟู๊ดเทค (Food Tech) เป็นหนึ่งในส่วนที่มีความน่าตื่นเต้นที่สุด โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 16,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโต 20% ต่อปี ภายในปี 2022 ซึ่งการเติบโตนี้จะเข้ามาปฏิวัติ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดจากผู้ส่งมอบ (Supplier) ไปจนถึงผู้บริโภค หรือจากต้นทางสู่ปลายทาง (From Farm To Fork) จึงนับเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับประเทศไทย ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “ครัวโลก” จะได้เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมของธุรกิจค้าปลีกอาหารและอาหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ซึ่งอุตสาหกรรมนี้มีศักยภาพเป็นอย่างสูงในการช่วยสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามหาศาลให้กับประเทศไทย เราจึงมีความตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับไมเนอร์กรุ๊ปในการสร้างอาหาร และระบบนวัตกรรมค้าปลีกอาหารขึ้นในประเทศไทยผ่าน    แฮกกาธอนนี้ ด้วยการสนับสนุนอย่างยั่งยืนด้านการลงทุน กลยุทธ์ด้านพันธมิตร และการปรับตัว”

Minor Tasting The Future

“Minor Tasting The Future – Hackathon 2018” โดยความร่วมมือของไมเนอร์กรุ๊ป, ดิสรัปท์ เทคโนโลยี เวนเจอร์ และ 500 TukTuks เริ่มเปิดรับสมัครนักพัฒนานวัตกรรมด้าน Food, Dining, และ Restaurant Tech ตั้งแต่วันนี้ ถึง 9 พฤศจิกายน 2561 เพื่อร่วมประกวดไอเดียในงานแฮกกาธอนดังกล่าว โดยจะมีการประกาศผล 20 ทีมที่ได้รับคัดเลือกเข้าโครงการในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งทีมที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขันในงาน “Minor Tasting The Future – Hackathon 2018” ที่จะจัดระหว่างวันที่ 1 – 2 ธันวาคมนี้ จะได้รับการอบรมแบบเข้มข้น ไปกับหัวข้อ Future of Food Retail Service, Future of Franchise, Future of Dining for Aging Society, Digital Restaurant และ Dining For The Hyper Millennials, Delivery 4.0 and Beyond ทั้งนี้โครงการยังเปิดรับสมัครในหัวข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจ 

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน