สื่อ The Wall Street Journal ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวไม่ระบุนาม โดยแว่วๆว่า Apple นั้นสั่งลดการผลิต iPhone 3 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว เนื่องจาก ปริมาณความต้องการจริงนั้น “ต่ำกว่า” ที่คาดหวังเอาไว้
จากรายงานแจ้งว่า iPhone รุ่นที่มีผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ iPhone XR โดยมีการสั่งตัดการผลิตลงถึง 1 ใน 3 หรือตีเป็นจำนวนเครื่องประมาณ 70 ล้านเครื่อง จากที่เคยสั่งให้ซัพพลายเออร์ทำการผลิตไปแล้วประมาณช่วงเดือน กันยายน – กุมภาพันธ์
สัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานว่า Apple สั่งซัพพลายเออร์หลายรายให้ลดจำนวนการผลิต iPhone XR อีกครั้ง สาเหตุหลักๆ น่าจะมาจาก การแข่งขันที่สูง และเข้มข้นของตลาดสมาร์ทโฟนซึ่งได้เปิดตัวไล่เลี่ยกันหลายแบรนด์ ซึ่งทางฝั่งจีนอย่าง Huawei ก็ถือว่าน่าจับตามอง
ประเด็นการสั่งลดการผลิตนั้น เหมือนเป็นการจุดประกายปัญหาในเรื่องการพยากรณ์ยอดความต้องการของ Apple ที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงพอสมควร และมีผลกระทบโดยตรงถึงทางฝั่งซัพพลายเออร์ของ Apple ด้วย
สำหรับเรื่องความคาดหวัง มันคงกลับด้านกับ iPhone X ที่ตอนเปิดตัวนั้น หลายสำนักข่าวดูจะผิดหวัง ต่างพูดในเชิงลบกันว่า iPhone X คือ ความล้มเหลว น่าผิดหวัง ฯลฯ แต่ สิ่งที่เกิดขึ้น คือ iPhone X นั้น ไม่ได้เป็นแค่ iPhone รุ่นที่ขายดีที่สุดของ Apple แต่ เป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในโลก
iPhone X ยังทำลายสถิติ โดย โกยรายได้ไปกว่า 6.15 หมื่นล้านดอลล่าร์ ในช่วงไตรมาสที่เปิดตัว มันเลยกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ทำได้เกินความคาดหวังไว้เยอะมาก
ส่วน iPhone รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่าง iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ถูกมองว่า ทาง Apple นั้น ประเมินสูงเกินไป แต่ความเป็นจริงแล้ว ยอดขายที่ได้ กลับไม่สูงตามเลย ซึ่ง ณ ตอนนี้ ทาง Apple ยังคงรายงานยอดรายได้รายไตรมาสอยู่ ก็จะเห็นได้ว่า รายได้ของทาง Apple นั้น ไม่ได้สูงมากตามที่ได้คาดการณ์ไว้
แต่ ปีงบประมาณ 2019 มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า Apple จะไม่เปิดเผยจำนวนยอดขายแล้วว่า ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวนั้นขายได้กี่ชิ้น
และ ผลกระทบอีกเรื่องของการลดการผลิต iPhone รุ่นใหม่อีกอย่างก็คือ ราคาหุ้นของ Apple (AAPL) นั้นร่วงถึง 15% เมื่อมีการเปิดเผยรายการทางการเงินไปเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2018