สำหรับสาวก Apple (รวทถึงคนที่ไม่ใช่สาวกด้วย) คงจะเคยเห็นว่า ทางบริษัทฯมีการทำสรุปยอดขายอุปกรณ์ต่างๆ ในแต่ละไตรมาส ว่า ผลิตภัณฑ์แต่ละตัว ขายไปกี่ตัวแล้ว ซึ่งก็เป็นวิธีที่ทำให้เราได้เห็นผลการดำเนินงานของ Apple
แต่ดูเหมือนว่า ต่อไป ตัวเลขรายงานการขายที่ว่า คงจะไม่มีให้เราได้เห็นแล้ว เมื่อทาง Luca Maestri (ตำแหน่ง CFO) แจ้งว่า Apple จะหยุดรายงานยอดขายอุปกรณ์ต่างๆของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็น iPhone iPad Macbook และ อื่นๆ
คาดว่า น่าจะเริ่มไม่มีการแจ้งยอดขายตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2018
“As demonstrated by our financial performance in recent years, the number of units sold in any 90-day period is not necessarily representative of the underlying strength of our business.”
ทาง Maestri มองว่า ตัวเลขยอดขายนั้น ไม่ได้มีผล และ ไม่ได้สะท้อนถึงผลงานดำเนินงานมาก เพราะ จุดประสงค์และหัวใจหลักของ Apple คือ การผลิตสินค้า และ บริการ เพื่อช่วยให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานจำนวนมากพึงพอใจ มีส่วนร่วมกับแบรนด์ และ ไปถึงขั้นยึดติดกับแบรนด์ (มี brand loyalty)
ซึ่งตัวเลขยอดขายในปัจจุบัน คงจะดูไม่สำคัญ และ อาจไม่ได้ให้ความสำคัญเท่ากับในอดีต เพราะ ผลประกอบการของ Apple เอง Apple ก็ผลประกอบการที่เห็นได้ชัดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะจากราคาหุ้น หรือ งบการเงิน
ซึ่ง CEO อย่าง Tim Cook เองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ซึ่งจุดนี้เอง ที่อาจทำให้ Apple ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกดูลึกลับ และ เข้าถึงยากขึ้น
แต่ … หากมองเรื่องนี้ แล้วย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ทาง Apple เองก็เปิดเผยแบบโปร่งใสอะไรมากมาย โดยบริษัทฯมีกาารเผยยอดขายผลิตภัณฑ์ก็จริง เพียงแต่ ไม่ได้เปิดเผยหมดทุกตัว เพราะ ก่อนหน้านี้ ก็มีการเปิดเผยยอดขาย ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ตระกูล Mac และ อุปกรณ์ตระกูล iOS แต่ ไม่ว่าจะเป็น Apple Watch, Apple TV และ HomePod นั้น ไม่มียอดขายให้เราเห็นกันเลย
เมื่อไม่เห็นยอดขายของสินค้าหลายชนิด มันจึงมีคำถามต่อว่า Apple ประสบความสำเร็จในไลน์สินค้านั้นๆหรือไม่ เช่น สินค้า wearable (แม้จะมีการนำเสนอข้อมูลว่า ครองส่วนแบ่งตลาดในตลาดนาฬิกาถึง 50%)
ซึ่ง ณ ตอนนี้ ก็ยังไม่มีคนของ Apple ออกมาอธิบายเพิ่มเติมว่า ทำไมบริษัทถึงตัดสินใจไม่เปิดเผยยอดขายแบบนี้
ไปดูกันที่รายงานเกี่ยวกับรายรับล่าสุดของ Apple จะพบว่า ยอดขาย iPhone นั้น ไม่ได้แตกต่างจากช่วงเดียวกันของเมื่อปีที่แล้วเลย และ ราคาหุ้นของบริษัทก็ค่อยๆร่วง หลังจากปิดตลาดแล้ว นั่นหมายถึง Apple สามารถทำเงินได้เพิ่มสูงขึ้น จากการขายอุปกรณ์ในจำนวนชิ้นที่เท่าเดิม? หากเป็นแบบนั้นจริง คำพูดของ Maestri ก็ไม่ผิดที่พูดว่า ตัวเลขจำนวนของสินค้าที่ขายไป ไม่ได้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทเท่าไหร่
ซึ่งหาก Apple ยืนยันจะทำแบบนี้จริงๆ คงต้องตอบคำถามนักลงทุนให้ได้ และ เตรียมรับผล feedback จากการไม่เปิดเผยยอดจำนวนสินค้าที่ขาย (ราคาหุ้น Apple ดิ่งลงประมาณ 7% ทาง Apple เองคงต้องมีคำตอบที่ดีเอาไว้ตอบผู้ถือหุ้น และนักลงทุนนะครับ)
