เปิดตัวแล้วกับสมาร์ทโฟนที่แฟนๆ ซัมซุงรอคอย กับ Samsung Galaxy S10 มาพร้อมกันทีเดียว 3 รุ่น S10e S10 และ S10+ พร้อมฟีเจอร์และสเปกที่ล้ำสมัยสุดในทุกด้าน
พลิกโฉมการออกแบบใหม่หมด All-New Samsung Galaxy ที่แท้จริง!
เริ่มกันตั้งแต่หน้าจอที่เป็นวิวัฒนาการอีกขั้นของ Super AMOLED มาเป็น Dynamic AMOLED ที่เป็นครั้งแรกของหน้าจอสมาร์ทโฟนที่รองรับมาตรฐาน HDR10+ ให้ค่าสีที่แม่นยำสูง ค่าคอนทราสต์สูงถึง 1:1,000,000 มากกว่าใน Galaxy S9 ถึง 10 เท่า
การออกแบบเว้นช่องสำหรับกล้องด้านหน้าเป็นแบบ Infinity-O ให้กล้องหน้าเข้ามาอยู่ภายในบริเวณหน้าจอ ถือว่าเป็นหน้าจอ AMOLED รุ่นแรกของโลกที่ออกแบบให้มีการเจาะรูได้ และด้วยหน้าจอแบบใหม่นี้ ทำให้มีพื้นที่หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น โดยจะมีขนาดจอ 3 ขนาดคือ 5.8 นิ้ว (S10e) 6.2 นิ้ว (S10) และ 6.4 นิ้ว (S10+) แต่ตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กและเบากว่าเดิมมาก
ระบบ Biometric ตอนนี้ ซัมซุง เปลี่ยนจากแสกนม่านตา Iris Scanner มาเป็นการแสกนใบหน้า และใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบคลื่นเสียง Ultrasonic เป็นรุ่นแรกของโลก (สำหรับที่มีออกมาก่อนหน้านี้ในตลาดจะเป็นระบบสแกนแบบออพติคัล) ซึ่งระบบคลื่นเสียงนี้สามารถสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้แม่นยำ รวดเร็ว และสแกนได้แม้ว่ามือจะเปียกน้ำ
บอดี้ของเครื่อง มีการเอาเซรามิคมาใช้ ที่มีคุณสมบัติแข็งแกร่ง เกิดริ้วรอยยาก และมีน้ำหนักเบา ส่วนกระจกหน้าใช้เปน Corning Gorilla Glass 6
ประสิทธิภาพที่ทรงพลังแบบขีดสุด
สเปกใหม่ของ Samsung Galaxy S10 รอบนี้ ใช้เทคโนโลยีใหม่สุดของซัมซุง กับชิปเซต Exynos 9820 บนสถาปัตยกรรมระดับ 8nm เร็วกว่าเดิม 19% ประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟฟิกเพิ่มขึ้น 37% พร้อมทั้งประหยัดพลังงานกว่าเดิมถึง 15% และมี NPU ชิปประมวลผลด้าน AI ในการคิดวิเคราะห์
และนี่ยังเป็นครั้งแรกกับสมาร์ทโฟนที่มี RAM ใส่มาให้ถึง 12GB และหน่วยความจำภายในมากถึง 1TB (Galaxy S10+) แถมยังสามารถเพิ่ม microSD ได้สูงสุดถึง 512GB เรียกได้ว่านี่คือสมาร์ทโฟนที่มีความจุสูงสุดในโลก ที่มีมากถึง 1.5TB
กล้องหลัง 3 เลนส์ที่ Advance ยิ่งกว่าเดิม
กล้องใน Galaxy S10 และ S10e จะเป็นกล้องคู่ ส่วน Galaxy S10+ จะมาเป็นกล้อง 3 เลนส์ ด้วยกล้องหลักแบบปรับรูรับแสงอัตโนมัติ f/1.5 – 2.4 ทำงานร่วมกับกล้องเลนส์ Tele และเพิ่มเลนส์กว้าง Ultra-wide 123 องศา ด้านฟีเจอร์การถ่ายภาพมีเพิ่มความสามารถหลายอย่าง
- โหมดถ่ายภาพกลางคืนแบบใหม่ Bright Night ที่ใช้วิธีการถ่ายภาพ 7 ภาพมารวมกันเป็นภาพเดียว ให้ภาพทั้งภาพสว่างและมีรายละเอียดคมชัด
- AI ที่วิเคราะห์ซีนของภาพที่รับรู้เพิ่มขึ้น จากเดิม 10 ซีน เป็น 20 ซีน
- มีระบบช่วยจัด compose ของภาพ ที่วิเคราะห์มาจากภาพกว่าล้านรูป เพื่อเตือนและแนะนำการถ่ายภาพให้ได้องค์ประกอบของภาพที่สวยงาม
- วิดีโอ สามารถถ่ายแบบ HDR10+
- โหมด Super-Slomo ถ่ายได้นานขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า
- เพิ่มโหมดถ่ายวิดีโอกันสั่น Super Steady ที่ช่วยลดการสั่นไหวของของภาพวิดีโอได้ดี เหมือนกับถ่ายด้วยกล้องแอคชั่นแคม
ครั้งแรกกับกล้องหน้า Dual-Pixel ถ่ายวิดีโอได้ 4K
กล้องหน้าของ Galaxy S10 ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มหลายอย่าง เริ่มด้วยเป็นครั้งแรกที่เอากล้องแบบ Dual Pixel ที่ถ่ายภาพได้สวยคมชัด โดย Galaxy S10+ จะมีกล้องที่ 2 มาช่วยเรื่องวัดความลึกของภาพ ให้ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ Live Focus ได้ดียิ่งขึ้น ส่วนฟีเจอร์ AR Emoji พัฒนาเพิ่มสามารถจับการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ด้วย
ระบบพลังงาน ที่ไม่เหมือนเดิม
แบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy S10 จะมีฟีเจอร์ใหม่ Power Share ที่สามารถใช้งานเป็นที่ชาร์จแบบไร้สายให้กับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นหูฟัง Galaxy Buds และนาฬิกา Galaxy Watch
Bixby ที่ฉลาดมากขึ้น
ฟีเจอร์ใหม่ในการใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่เรียกว่า Bixby Routines เป็นการสั่งงานแบบเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อน ให้ Bixby ทำงานให้เราล่วงหน้าได้อัตโนมัติ เช่น สั่งให้เปิดเพลงโดยกำหนดระดับเสียงที่ต้องการ, เมื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่ ก็จะเปลี่ยนระบบให้กลายเป็นโหมดเงียบได้ทันที
พัฒนาเพื่อการเล่นเกม และความบันเทิงที่ดียิ่งกว่าเดิม
นอกจากตัวสเปกเครื่องที่ชิปเซตแรงและแรมจัดหนักแล้ว ซัมซุงมีการพัฒนาเอนจิ้นสำหรับการเล่นเกมร่วมกับ Unity ทำให้เล่นเกมได้ดีขึ้น มีการใช้ระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ส่วนเรื่องของระบบเสียง ก็ใช้ Dolby Atmos
ราคาเปิดตัว Samsung Galaxy S10, S10+ และ S10e
Samsung Galaxy S10, S10+ และ S10e พร้อมเปิดขายวันที่ 8 มีนาคมนี้ มีสีให้เลือก Prism White, Prism Black, Prism Green, Prism Blue, Canary Yellow และ Flamingo Pink
- Galaxy S10 เปิดราคาเริ่มต้น $899 ประมาณ 28,000 บาท
- Galaxy S10+ เปิดราคาเริ่มต้น $999 ประมาณ 31,200 บาท
- Galaxy S10e เปิดราคาเริ่มต้น $749 ประมาณ 23,400 บาท