เหตุการณ์ก่อการร้ายที่มือปืนกราดยิงผู้คนที่ประเทศนิวซีแลนด์นั้น มีผู้คนเข้าชมบน Facebook ขณะไลฟ์ถึง 200 ครั้ง และ ก่อนที่ไลฟ์จะถูกลบออก มีคนดูวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวรวมกว่า 4,000 ครั้ง
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ช็อคโลก และ สะเทือนขวัญมากๆ สำหรับเหตุการณ์มือปืนกราดยิงในมัสยิดที่เมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ ที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา
Facebook เองเป็นหนึ่งหน่วยงานที่ทำงานหนักมาก เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ content เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นปรากฏอยู่บนแพลตฟอร์มของบริษัท ซึ่ง Facebook เองนั้น ใช้ทั้งทีมงาน และ กำลังคนในการทำงานครั้งนี้
ซึ่งทาง Facebook เองได้ทำงานโดยตรงกับทางกรมตำรวจของนิวซีแลนด์ รวมไปถึงการซัพพอร์ตการสืบสวนในครั้งนี้ด้วย
ข้อมูลของทาง Facebook เกี่ยวกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้ มีดังต่อไปนี้
- มีผู้คนเข้าชมไลฟ์ก่อเหตุกว่า 200 ครั้ง และ ไม่มีผู้คนกด report ขณะที่มือปืนที่ก่อนเหตุทำการไลฟ์เลย ซึ่งก่อนที่ไลฟ์จะถูกลบออกไปจาก Facebook นั้น วิดีโอที่บันทึกการไลฟ์มีผู้คนเข้าไปชมรวมๆถึง 4,000 ครั้ง
- ผู้ใช้งานที่กด report เข้ามาคนแรก ทำหลังจากที่การไลฟ์จบไปแล้ว 12 นาที
- ก่อนทีมงาน Facebook จะได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับวิดีโอนี้ วิดีโอเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้น ถูกโพสต์แชร์ขึ้นไปยัง 8Chan ซึ่งเป็นบริการแชร์วิดีโอให้ดาวน์โหลดดูกัน
- ตามเกณฑ์ของ Facebook วิดีโอการก่อการร้าย ถือเป็นตัวแทนของเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งละเมิดมาตรฐานของทางบริษัทฯ ด้วยเหตุนี้เอง ไลฟ์การก่อการร้ายที่เกิดขึ้นจึงสมควรถูกลบออก
- ทาง Facebook ได้ทำการลบบัญชีผู้ใช้งานของผู้ต้องสงสัย ทั้งบน Facebook และ Instagram แล้ว และทำการไล่ลบบัญชีที่ปลอมขึ้นมาเป็นผู้ต้องสงสัยให้หมดไป
- ตัวไลฟ์ และ วิดีโอที่ถูกบันทึกหลังจากไลฟ์จบ ที่เป็น original นั้น ถูกลบออกไปเรียบร้อยแล้ว และทาง Facebook จะทำการไล่ลบหากมีพบว่ามีการอัพโหลดวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง ทั้งบน Facebook และ Instagram
- บางพวกหัวหมอ ใช้วิธี screen recording หรือการบันทึกหน้าจอแทน ทำให้ระบบตรวจจับว่าเป็นวิดีโอตัวเดียวกันมั้ยนั้น ทำได้ยาก ซึ่งทาง Facebook เองก็จะนำเทคโนโลยีเสียงมาเพื่อช่วยในการตรวจ และไล่ลบคลิปวิดีโอนี้ให้หมดไปจาก Facebook
- ที่น่าตกใจ คือ หลังจากเกิดเหตุ 24 ชั่วโมง Facebook ทำการไล่ลบวิดีโอดังกล่าวถึง 1.5 ล้านตัวทั่วโลก ซึ่งวิดีโอ 1.2 ล้านตัว ถูกบล็อคตั้งแต่ทำการอัพโหลด และมีบางส่วนที่อัพโหลดได้ แต่ถูกไล่ปิดการมองเห็นหลังจากอัพโหลดเสร็จ
ทางทีมงาน TechOffside ขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ
อีกเรื่อง หากผู้ใดที่ทำการเซฟวิดีโอการก่อการร้ายดังกล่าวเอาไว้ ขอความกรุณา ลบ ไม่อัพโหลด และ ไม่นำไปเผยแพร่ต่อนะครับ เพราะ มันเป็นเหตุที่สะเทือนขวัญ และ ร้ายแรงต่อสภาพจิตใจของผู้สูญเสีย