21 เมษายน 1989 หรือเมื่อ 30 ปีที่แล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่เครื่อง Nintendo Game Boy วางจำหน่ายที่ญี่ปุ่น ถือเป็นก้าวแรกของตลาดเกมพกพา ที่ตอนนี้ยังคงเดินต่อไป แม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไปไกลแล้วก็ตาม
ในช่วงที่นินเทนโดประสบความสำเร็จกับเครื่องเล่นเกมคอนโซล Famicom (NES) ไปทั่วโลก สิ่งต่อมาที่นินเทนโดปล่อยมาในตลาดคือ เครื่องเล่นเกมพกพา ที่ทำให้ทุกคนสามารถเล่นวิดีโอเกมได้ทุกที่ ทุกเวลา ตัวเครื่องมีหน้าจอขาวดำแบบ LCD ผลึกเหลวที่เป็นสีเขียว มีปุ่มควบคุมเหมือนกับเครื่องฟามิคอม ใช้พลังงานจากถ่ายไฟฉาย AA 4 ก้อน
เป็นการก้าวไปอีกขั้นต่อจากเกมกด Game & Watch ที่เป็นของเล่นยอดฮิตที่ล้ำสมัยมากในยุค 80 ตอนนั้น เพราะ Game Boy สามารถเปลี่ยนเกมได้ และ Nintendo Game boy ยังเป็นต้นกำเนิดของเกมยอดฮิตอย่าง Tetris และ Pokemon ที่ยังคงได้รับความนิยมจนถึงทุกวันนี้
Nintendo Game Boy ได้รับความนิยมและมีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มด้วย Gameboy Pocket ที่มีขนาดบางและเบาลง หน้าจอเป็น LCD ขาวดำที่คมชัดขึ้น และเริ่มพัฒนาสู่ Gameboy Color หน้าจอสี
จนถึงปี 2001 นินเทนโดได้ยกระดับตัวเกมของ Game Boy มาสู่ยุค 32 บิต ด้วย Game Boy Advance ที่หน้าจอใหญ่ขึ้น จอสี ใช้แบตเตอรี่น้อยลง (แบตเตอรี่ 2 ก้อน) แต่เล่นได้นานขึ้น และในยุคของ Game Boy Advance ก็มีการปรับโฉมหลายครั้ง ด้วยรุ่น GameBoy Advance SP เป็นหน้าจอแบบพับได้ทำให้เครื่องเหลือเล็กลง พกพาง่ายกว่าเดิม และมีรุ่น GameBoy Micro ที่มีขนาดเล็กจิ๋ว
นินเทนโดถือเป็นผู้ผลิตเกมคอนโซลแบบพกพาที่ได้รับความนิยมมาตลอดทุกรุ่นทุกสมัย เพราะหลังจากนั้น GameBoy ได้ถูกเปลี่ยนยุคมาเป็น Nintendo DS เครื่องเล่นเกมที่มี 2 หน้าจอและใช้ Stylus เพื่อควบคุม มี Nintendo 3DS ที่เอาหน้าจอแบบ 3 มิติมาใช้กับเครื่องเล่นเกมพกพา และล่าสุด Nintendo Switch เครื่องเล่นเกมที่เป็นได้ทั้งพกพาและคอนโซลเล่นในบ้าน
