เปิดตัวแล้วกับ Asus Zenfone 6 ได้ออกแบบมารองรับกับความต้องการประสิทธิภาพขั้นสุดทุกอย่างที่ผู้ใช้ต้องการ แต่ยังคงระดับราคาหมื่นปลายๆ ซึ่งหาได้ยากมากในปัจจุบัน และที่เด่นมากก็คือกล้องหลังที่หมุนพับกลับขึ้นมาเป็นกล้องหน้าได้ ไม่เหมือนใคร
เอซุส เปิดตัว Zenfone 6 (ZS630KL) ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.4 นิ้ว แต่สิ่งที่ทำให้เหนือกว่ามือถืออื่นๆ นั่นก็คือดีไซน์จอไร้ขอบที่ไร้ติ่งหรือรูกล้องบนหน้าจอ
ซึ่งในจุดนี้ Asus ได้ออกแบบกลไกแบบพับขึ้นมาสำหรับกล้องหลังให้พลิกขึ้นมาเป็นกล้องหน้า ประกอบไปด้วย IMX586 ความละเอียด 48MP (พิกเซลขนาด 0.9µm, รูรับแสง f/1.8 ) จากโซนี่จับคู่กับ 13MP 125° เลนส์ ultra-wide ทำให้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังนั้นมีประสิทธิภาพเท่ากัน
ตัวกล้องสามารถบันทึกวิดิโอความละเอียด 4K ได้ที่ 60fps พร้อมกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยกลไกที่สามารถพลิกกล้องขึ้นมาทำให้สามารถถ่ายภาพพาโนราม่าได้โดยอัตโนมัติ หรือสามารถใช้การการทำ Motion Track ที่แพนกล้องตามวัตถุได้ นอกจากนี้ Asus ยังพัฒนาระบบ HDR Enhanced และ Night Mode ที่ใช้การซ้อนภาพหลายๆเฟรมเข้าด้วยกัน
กลับมาที่สเปคของหน้าจอ 6.4 นิ้ว เป็นชนิด IPS LCD ครอบคลุมกับ 92% ของตัวเครื่องทั้งหมด มีค่าความสว่างสูงสุดที่ 600 nits และรองรับการแสดงผลสีสันแบบ DCI-P3 แต่ใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบปกติแทนการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
ในปีนี้ Asus จะไม่มีรุ่นที่เป็น z จะมีเพียง Zenfone 6 เพียงรุ่นเดียวที่ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 855, แรม 8 GB, หน่วยความจำแบบ UFS 2.1 สูงสุด 256GB ซึ่งทาง Asus ไม่อยากให้ผู้ซื้อต้องตัดสินใจเลือกระหว่างสองซิมกับช่องใส่ microSD โดยช่องใส่การ์ดสามารถใส่ได้ทั้งซิมสองใบและการ์ด microSD ได้อีกหนึ่งใบพร้อมๆกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไปไม่ได้นั่นก็คือระบบเสียง โดย Zenfone 6 มาพร้อมระบบ Dual amplifiers และได้การรับรอง Hi-Res Audio รวมถึงของแถมในกล่องก็ยังมาพร้อมหูฟัง ZenEar ที่รองรับ Hi-Res มาให้ด้วย หรือถ้าหากว่าคุณอยากจะใช้หูฟังแบบไร้สายก็ยังมีระบบ aptX HD ติดมาให้อีกด้วย
จากกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีจากซีรีย์ Max ในรอบนี้ Asus ได้แบตเตอร์รี่ความจุมหาศาลถึง 5,000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 4 (18W) แต่ไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สายเนื่องจากทาง Asus อยากให้แบตเตอร์รี่มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น
ZenUI 6 ได้ถูกปรับปรุงใหม่ทั้งหมดให้ใกล้เคียงกับ Android 9 Pie แบบดั้งเดิมมากที่สุด พร้อมสัญญาว่าจะได้รับการอัพเกรดเป็น Android 10 และ 11 ในอนาคต รวมถึง Security patches เป็นระยะ 2 ปี
ในส่วนของระบบกลไกพลิกผลิตจาก Liquid Metal ที่มีน้ำหนักเบากว่าสแตนเลสแต่มีความแข็งแรงมากกว่าถึง 4 เท่า และมีระบบพับเก็บอัตโนมัติเมื่อทำมือถือตกพื้น โดยทาง Asus ได้ทดสอบกลไกทั้งสิ้น 100,000 ครั้ง เฉลี่ยเป็นการพับกล้องขึ้น-ลง 28 ครั้งต่อวันติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี
Asus Zenfone 6 จะเปิดตัวใน EU เป็นที่แรกในราคา 500 ยูโร (17,800 บาท) เท่ากับ Zenfone 5z เมื่อปีที่แล้ว ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ทางเว็บไซต์ Asus.com และตัวแทนจำหน่าย
ที่มา gsmarena.com